เปิดประวัติ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังช็อกวงการโดนบุกค้นบ้าน
จากกรณีเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังตำรวจคอมมานโด เข้าตรวจค้นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ภายในหมู่บ้านหลังหนึ่ง ย่านวิภาวดี กทม. หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงว่ามีการส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์
สำหรับประวัติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นตท.รุ่นที่ 31 นรต.รุ่นที่ 47 หนึ่งในแคนดิเดตว่าที่ ผบ.ตร. คนใหม่ จากดาวรุ่งพุ่งแรงกลายเป็นดาวดับ
ส่วนเส้นทางการทำงานของ เริ่มรับราชการติดยศ “ร.ต.ต.” เป็นรองสารวัตร ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2537 เป็นรองสารวัตรได้ 6 ปี 1 เดือน ได้ขึ้นเป็นสารวัตร และเป็นสารวัตรได้ 4 ปี 8 เดือน ขยับเป็นรองผู้กำกับการ เป็นรองผู้กำกับการอยู่ 4 ปี จากนั้นขยับเป็นผู้กำกับการ ติดยศ “พ.ต.อ.” ได้เป็น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา โรงพักเกรดเอ โดยขณะนั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้กำกับการอยู่ได้ 4 ปี 1เดือน จึงขยับเป็นรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ได้เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอพื้นที่สีแดงในพื้นที่ต่อเนื่องจังหวัดชายแดนใต้ การอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ แม้อายุยังน้อยแต่อายุงานเพิ่มความอาวุโส ทำให้ก้าวขึ้นเป็น “พล.ต.ต.” ขณะอายุไม่ถึง 45 ปี
23 ก.ค. 2558 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เป็นผู้บังคับการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าประสานนายกรัฐมนตรี ในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในปี 2558
ด่วน! ตำรวจไซเบอร์บุกตรวจค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ หลังพบเชื่อมโยงพนันออนไลน์
กระทั่งปี 2559 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 และปี 2560 ซึ่งอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 76 ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโยกมานั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และในที่สุดขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอายุน้อย ติดยศ “พล.ต.ท.” ด้วยวัยเพียง 48 ปี เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการสีกากี
“บิ๊กโจ๊ก” กลายเป็นนายตำรวจหนุ่มเนื้อหอมและถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะในวงการรู้ดีว่าเป็นผู้ใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” และบทบาทหน้าที่ค่อนข้างโดดเด่น แต่เส้นทางบนถนนสีกากีต้องมาสะดุดลง โดยเมื่อ 6 เม.ย. 2562 ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม
กระทั่ง วันที่ 9 เม.ย. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ก่อนที่จะจะกลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสบ 9 ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผบ. ตร. ตามลำดับ