“บิ๊กโจ๊ก” ยอมนำค้นบ้าน มั่นใจลูกน้องไม่ทำผิด เชื่อไม่ใช่แผนสกัดขึ้น ผบ.ตร.เพราะตนไม่ใช่แคนดิเดต

วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโด นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และบ้านที่ซื้อไว้ให้ลูกน้องพักรวม 5 หลัง ภายในหมู่บ้านในซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ หลังพบหลักฐานเส้นทางการเงินของนายตำรวจคนใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์

เบื้องต้นมีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในบ้านพัก และปฏิเสธการเข้าตรวจค้น โดยอ้างว่าเป็นรอง ผบ.ตร. ต้องรอให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ร่วมเข้าเจรจาขอตรวจค้น

ล่าสุด พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ได้เดินทางมาถึงและเข้าไปในบ้านพักดังกล่าวแล้ว

มีรายงานว่า ในวันนี้ชุดปฎิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการ Big Cleaning Day กวาดบ้านตำรวจ ปูพรมตรวจค้น 30 จุดในพื้นที่ 6 จังหวัดเป้าหมาย ซึ่งพบมีความเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น อุดรธานี และสระบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 คน ทั้งพลเรือน และตำรวจ ในจำนวนนี้ทราบว่าเป็นนายตำรวจ ยศ พลตำรวจตรี และ พันตำรวจเอก ซึ่งทั้ง 2 นาย ยังเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และชุดพนักงานสอบสวนของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายหนึ่งด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังพาตำรวจไซเบอร์ค้นบ้านย่านวิภาวดี 60 ว่า ทีแรกที่ตนไม่ได้ให้ตรวจค้น เพราะตนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากจะทำการค้นบ้านต้องให้ผู้บังคับบัญชาการระดับสูงมา ซึ่งพอผู้บัญชาการ สอท.มา ตนก็ให้ตรวจค้นปกติ และเป็นคนนำตรวจค้นเอง และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ

ส่วนลูกน้องของตนก็ต้องไปอธิบายต่อศาล ถ้ามีความผิดตนก็ไม่ละเว้น แต่ตนมั่นใจในตัวลูกน้อง เพราะทำงานด้วยกันมานาน หากจะกระทำผิดน่าจะทำนานแล้ว แต่ถึงอย่างไร หากมีความผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย และการเข้าค้นวันนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็สามารถตรวจค้นได้้เพื่อความโปร่งใส

ส่วนจะเป็นการสกัดในฐานะที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าใช่ เพราะตนไม่ใช่แคนดิเดต ไม่คิดว่าเป็นการสกัดตน และที่เจ้าหน้าที่ สอท.มาก็เพราะทำตามหน้าที่