xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ลุยเก็บหลักฐานหาร่องรอยศพเด็ก เหยื่อพ่อเลี้ยงโหดฆ่าโบกปูน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบช.น. ประสาน พฐ.ลงพื้นที่ห้องพักของภรรยาคนที่สอง ย่านบางเขน เก็บหลักฐานหาร่องรอยศพเด็ก เหยื่อคดีพ่อเลี้ยงฆ่าโบกปูน

วันนี้ (20 ก.ย.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.และ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ร่วมกับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องพัก อพาร์ทเมนท์ ซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.ที่นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาใช้พักอาศัย

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ได้มีการประสาน ตำรวจ พฐ.เข้าเก็บพยานหลักฐานในห้องพักของ นางสาวเจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ของผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นสถานที่ใช้ทำร้ายร่างกาย จึงต้องค้นหาว่ามีอุปกรณ์และหลักฐานใดอยู่หรือไม่ เมื่อช่วงเช้าเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐานอย่างรอบคอบรัดกุมในทุกมิติ ก่อนเตรียมดำเนินคดีเนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตปริศนาของเด็กทารก 4 คน ที่เป็นลูก นางสาวเจษฎา โดยนายส่องศักดิ์ และนางสาวสุนัน ถูกดำเนินคดีเรียบร้อย

ทั้งนี้นางสาวเจษฎา ให้การรับสารภาพว่า เด็ก 4 คนเสียชีวิตแล้ว จึงต้องหาที่มาว่าเป็นอย่างไรโดยจะสอบย้อนหลังถึงปี 2559 ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้ขยายผลว่านอกจากสามีภรรยาคู่นี้ ยังมีใครช่วยอำพรางศพหรือไม่ โดยนางสาวสุนัน ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี แต่นายส่องศักดิ์ ให้การภาคเสธยอมรับบางเรื่องเท่านั้น โดยไม่พูดถึงสาเหตุการฆ่าลูก พบประวัติการรับยาจากแพทย์จริงเมื่อปี 2559 ตรวจสอบไม่พบประวัติถูกดำเนินคดีใด แต่จะเช็คย้อนหลังไป 15 ปี และสืบหาข้อมูลที่พักอาศัยว่าเคยพักอยู่ที่ใดบ้าง

นอกจากนี้จะต้องสอบปากคำแพทย์ที่ชันสูตรศพว่า มีร่องรอยบาดแผลบนศพเด็กที่เสียชีวิตว่าเกิดจากอะไร แต่จากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา สอดคล้องกับภาพและข่าวในโลกออนไลน์ โดยพฐ.เก็บดีเอ็นเอผู้ต้องหาไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลคาดว่าจะรู้ผลภายใน 2 วัน ทั้งนี้นับแต่เกิดเรื่อง นางสาวเจษฏา ไม่เคยแจ้งความเพียงแต่รับสารภาพว่ามีเด็กเสียชีวิตจริง และพร้อมเจ้าหน้าที่ชี้จุดที่นำศพใส่ถุงดำไปทิ้งภายในซอยพหลโยธิน 50

ด้านนายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ตามที่มีหลักฐานนายส่องศักดิ์เคยเข้ารักษาตัวด้วยอาการป่วยทางจิต แต่ตนเชื่อว่า การที่ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเด็กจนเสียชีวิตและนำร่างเด็กนำร่างลูกไปฝังที่จังหวัดกำแพงเพชร ก่อนฝังมีการห่อถุงพลาสติกถึง 3 ชั้น มีปูนโบกทับเรียบร้อย แบบนี้ไม่ใช่เรื่องของการเป็นโรคจิต หรือป่วยจิตเวช แต่เป็นการวางแผนฆ่าและทำลายหลักฐานอย่างเป็นขั้นตอน

ส่วนตัวเชื่อว่าแบบนี้มันเหลี่ยมจัด วางแผนมาอย่างรอบคอบ แล้วจะเอามาอ้างในชั้นศาลไม่ได้ พฤติกรรมที่กระทำผิดนั้น มีการวางแผนเป็นขั้นตอนไม่ใช่คนพูดจาไม่รู้เรื่องเดินเหม่อลอยเหมือนพวกมีอาการทางจิตประสาทที่พบเห็นทั่วไปแต่อย่างใด อีกทั้งหากจับไม่ได้ ไล่ไม่ทันก็จะไม่รับสารภาพ เพราะระหว่างที่นำตัวไปชี้จุดที่กำแพงเพชร ผู้ต้องหาเองก็ไม่ได้มีการเปิดปากรับสารภาพถึงลูกอีก 4 คนที่ได้ลงมือฆ่าจนเสียชีวิต ถือว่าเป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกตัวเอง

เวลาต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.สพฐ. และพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น. 2 พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้มาตรวจสอบบริเวณจุดที่น.ส.เจษฎาอ้างว่า นำศพลูก มาทิ้งไว้ที่บริเวณศาลพระภูมิริมถนนพหลโยธิน ซึ่งที่เกิดเหตุอยู่ห่างซอยพหลโยธิน 56 ราว 200 เมตร ข้างปั๊มน้ำมัน ปตท. พบว่า ศาลพระภูมิได้มีการย้ายตำแหน่งออกจากจุดเดิมไปประมาณ 50 เมตร โดยพื้นที่มีการนำเศษปูนเศษหินมาวางกระจายอยู่เต็มพื้นที่เป็นทางยาวประมาณ 100 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้น โปลิศ ไลน์ กั้นบริเวณดังกล่าวไว้ เพื่อรอการตรวจสอบ

สำหรับจุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจาก น.ส.เจษฎาว่าได้นำศพลูกชายที่เสียชีวิตมาทิ้งในปี 2559 จำนวน 1 คน และปี 2561 นำศพลูกชายมาทิ้งอีก 1 คน ต่อมาเมื่อปี 2563 จึงมีก่อสร้างปั๊มน้ำมัน ปตท. ขึ้นด้านข้างและมีการปรับพื้นที่จากป่าหญ้าให้เตียนโล่ง และมีการขยับศาลพระภูมิออกไปจากจุดเดิม และด้วยเวลาที่ผ่านมานานทำให้สภาพที่จุดที่ทิ้งศพเด็กทั้งสองคนนั้นเปลี่ยนไปมาก เจ้าหน้าที่จึงวางแผนการเพื่อหาทางเก็บหลักฐานตรงจุดดังกล่าว ก่อนเข้าตรวจสอบสภาพจุดที่ทิ้งเพื่อหาหลักฐานทางคดี

ภายหลังการตรวจจุดทิ้งศพนาน 50 นาที พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า จากข้อมูลว่ามีการทิ้งศพเด็กตั้งแต่ปี 2559 และ 2561 นำศพเด็กมาทิ้งไว้ จุดสังเกต คือ ศาลพระภูมิ โดยสภาพเมื่อก่อนเป็นป่ากก มีน้ำขัง เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อเจ้าของที่ดิน ทราบว่า หลังปั๊มน้ำมัน ปตท มาก่อสร้างได้มีการถมดิน จึงให้ พฐ. ตรวจสอบก่อน ว่า มีเศษชิ้นส่วนของเด็กหรือไม่ โดยแผนต่อไปต้องใช้รถแบกโฮ ขนาดเล็ก เข้ามาขุดเพื่อเปิดหน้าดิน ทำการค้นหาต่อไป เจ้าหน้าที่ต้องทำถึงที่สุด เพื่อหาหลักฐานทางคดีให้พบ พร้อมกันนี้ยังมีการประสานไปยัง รพ.ภูมิพล และ นิติเวช รพ.ตำรวจ และรพ.ทุกแห่ง ว่ามีศพเด็กจากรถขยะมาทิ้งหรือไม่ รวมถึงศพนิรนามด้วย

อย่างไรก็ตามขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนหากประชาชนที่พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับเด็กที่เสียชีวิตในช่วงปี 2559 และ 2561 ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบได้ทันที


กำลังโหลดความคิดเห็น