รวบ “บัญชีม้า” ตุ๋นเหยื่อโอนเงินสมัครงานออนไลน์ กดไลค์-กดติดตามเพจ สูญหลายแสนบาท

MGR Online - ปคบ. จับ “ป้า บัญชีม้า ” หลอกเหยื่อ สมัครทํางานออนไลน์ อ้างรายได้ดี ก่อนพลาดท่า หลงเชื่อโอนเงินหลายแสนบาท ผู้ต้องหาสารภาพได้ค่าจ้างเปิดบัญชี

วันนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ําเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกันจับกุม น.ส.ศุกกมล บัวสกุล อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดี “ฉ้อโกงประชาชน” โดยจับกุม บริเวณริมถนนภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 32 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 11 ก.ย.66 เวลาประมาณ 17.45 น.

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 ผู้เสียหายได้รับโฆษณาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ชักชวนผู้เสียหายให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกทํางานกับผู้ต้องหา โดยการเข้าไปกดไลค์ กดติดตามเพจร้านค้าออนไลน์ในช้อปปี้ เพื่อเพิ่มยอดไลค์ ยอดวิวแก่ร้านค้าให้เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ ซึ่งสมาชิกจะได้ค่าตอบแทนอย่างสูง และเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว สมาชิกจะต้องสํารองจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นค่าสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ช้อปปิ้ง แล้วทางร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวจะโอนเงินที่สมาชิกได้สํารองจ่ายล่วงหน้าเป็นค่าสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวคืนพร้อมเงินค่าตอบแทนอย่างสูง เห็นได้ว่าผู้ต้องหาไม่มีเจตนาที่ชักชวนผู้เสียหายให้เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกทํางานกับผู้ต้องหาตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

อีกทั้ง ผู้ต้องหาไม่ต้องการที่จะคืนเงินที่สมาชิกได้สํารองจ่ายล่วงหน้าเป็นค่าสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวพร้อมค่าตอบแทนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เป็นเพียงแผนการส่วนหนึ่งของผู้ต้องหาที่ใช้เพื่อหลอกลวงเอาเงินไปจากผู้เสียหายเท่านั้น เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง ผู้เสียหายจึงสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกทํางานกับผู้ต้องหาและได้โอนเงินจํานวนร่วมแสนบาท การกระทําของผู้ต้องหาเป็นการหลอกลวงโดยใช้กลอุบายที่จะให้ค่าตอบแทนที่สูง หลังจากนั้น ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อ ผู้ต้องหาดังกล่าวได้อีกเลย

เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ผู้เสียหายได้มีชายไม่ทราบชื่ออ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทเมืองไทย ประกันชีวิต โทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย โดยอ้างว่าตน ได้รับผลประโยชน์จากเงินประกัน และมีคนแอบอ้างเอาชื่อของผู้เสียหาย ไปรับผลประโยชน์จากเงินประกัน สร้างความเสียหายให้กับผู้ได้รับสิทธิ์จากเงินประกัน ต่อมาได้มีการโอนสายให้ผู้เสียหายติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอ้างว่ามีตําแหน่งเป็นรองผู้กํากับสถานีตํารวจแห่งหนึ่ง แจ้งว่าผู้เสียหายไปใช้สิทธิรับเงินประกันแทนบุคคลอื่น และมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตํารวจดังกล่าว เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใหผู้เสียหายโอนเงินเป็นจํานวนร่วมแสนบาท เข้าบัญชีผู้ต้องหาเพื่อตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะดําเนินการโอนยอดเงินดังกล่าวคืนผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปบัญชีดังกล่าว หลังจากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาดังกล่าวได้อีกเลย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตํารวจ ปคบ. สืบสวนทราบว่า น.ส.ศุกกมล บัวสกุล ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ยังหลบหนีอยู่ จึงเร่งรัดติดตามตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อประชาชนจํานวนมาก มีการกระทําความผิดกันเป็นขบวนการ กระทั่งสามารถทำการจับกุมตัวในที่สุด

จากการสอบถาม น.ส.ศุกกมล ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับสารภาพ ว่าเมื่อปี 2565 มี น.ส.นุ่น เพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน ได้มีการชักชวนให้ไปเปิดบัญชี ธนาคารโดยได้รับค่าตอบแทน บัญชีละ 2500 บาท โดยตนเปิดบัญชีทั้งหมด 3 บัญชี ได้รับค่าตอบแทน จํานวน 4,500 บาท มีบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาโชคชัย 4 ,ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาโลตัสลาดพร้าววังหิน, ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสลาดพร้าววังหิน นอกจากนี้ ยังมีคนในชุมชนเดียวกันที่ถูก น.ส.นุ่น ชักชวนให้เปิดบัญชีอีกหลายคน

เบื้องต้น แจ้งข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงฯ" ตามหมายจับของศาลจังหวัดยะลาที่ 631/2565 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2565 คดีอาญาที่ 486/2565 , "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ" ตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 409/2565 ลงวันที่ 20 กันยายน 2565 คดอีาญาที่205/2565 และ "ร่วมกันฉ้อโกงฯ" ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 342/2565 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565