กรมกิจการเด็กฯ ร่วมกับเพจ Because We Care เปิดตัวโครงการ CYC Plus รู้ รักในวัยเรียน สร้างแกนนำเยาวชน เฝ้าระวัง และลดปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ Kick off จ.นครพนม
วันนี้( 4 ก.ย.) เวลา 10.30 น.ที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จ.นครพนม สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ เพจ Because we care จัดโครงการ CYC Plus รู้ รักในวัยเรียน เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจในการป้องกัน เทคนิคการช่วยเหลือ และช่องทางการส่งต่อเมื่อเกิดความรุนแรงในเด็กและเยาวชน ตลอดจนพัฒนาเครือข่ายเด็กและเยาวชนนำไปขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ สร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างการรับรู้ที่ดีในการป้องกันการกระทำความรุนแรงอย่างเข้มแข็งต่อกลุ่มเด็กและเยาวชนโดยมี นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ ฯ
นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหาของเด็กและเยาวชนไทยขณะนี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย มีความซับซ้อนอันเกิดจากปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่ล้อมรอบตัวเด็ก มากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงปัญหาที่แฝงมากับสื่อสังคมออนไลน์ นำไปสู่การล่อลวง ส่งผลเสียทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน กรมกิจการเด็กและเยาวชน ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรง จึงมุ่งเน้นพัฒนาให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจในวิธีป้องกัน ช่วยเหลือ และช่องทางการส่งต่อเมื่อเกิดความรุนแรงในเด็กและเยาวชน โดยร่วมกับเพจ Because we care เปิดตัวโครงการ CYC Plus รู้ รักในวัยเรียน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคแรก ซึ่งเป็นการอบรมสร้างแกนนำสภาเด็กและเยาวชน เพื่อนำไปขยายผลในระดับพื้นที่ ในเรื่องเพศศึกษา อนามัยเจริญพันธุ์ การป้องกันการถูกกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ กิจกรรมต้านภัยยาเสพติด และการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ช่องทางการช่วยเหลือสังคม ตลอดจนสามารถเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังไม่ให้ เกิดความรุนแรง ลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนนำไปสู่สังคมที่ปลอดภัยกับทุกช่วงวัย
นางอภิญญา กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 4 กันยายน 2566 เป็นการบรรยายให้ความรู้ และการฝึกปฏิบัติแก่สภาเด็กและเยาวชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 จังหวัด และเด็กและเยาวชนในโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จำนวน 300 คน โดยมี นายประสาร นิลมานิตต์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าว
ขณะที่นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ CYC Plus รู้ รักในวัยเรียน มุ่งเน้นให้เห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดจากการถูกกระทำความรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะในรูปแบบการล่วงละเมิด การทารุณกรรม การใช้แรงงาน รวมถึงภัยจากโลกออนไลน์ ดังนั้น การให้ความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันตนเอง และการช่วยเหลือผู้อื่น รวมถึงรู้จักช่องทางในการช่วยเหลือส่งต่อเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงในเด็กและเยาวชน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเด็กและเยาวชนเหล่านี้จะดูแลตนเองได้เมื่อเกิดอันตรายแล้ว ยังสามารถเป็นแกนนำ สำคัญในการสร้างการรับรู้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนในพื้นที่ต่อไปได้อีกด้วย
นางอภิญญา เน้นย้ำ ปัญหาความรุนแรงของสังคมในยุคปัจจุบัน ที่มีความซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงปัญหาที่แฝงมากับสื่อสังคมออนไลน์ เด็กและเยาวชนจะต้องรู้เท่าทัน และสามารถปฏิบัติตนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากความรุนแรงเหล่านี้ได้ ตลอดจนสามารถใช้ช่องทางในการสื่อสาร แจ้งเหตุ ส่งต่อ ได้อย่างถูกต้อง เป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น หากพบเห็นการกระทำ ปัญหาความรุนแรง ไม่ว่าจะรูปแบบใด สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว 77 แห่ง ทั่วประเทศ หรือติดต่อแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 และแอพพลิเคชั่นคุ้มครองเด็ก แอปพลิเคชั่นไลน์ ESS Help me หรือเพจ Because we care ตลอด 24 ชั่วโมง
นางอภิญญา กล่าวขอบคุณนายประสาร นิลมานัตต์ กรรมการและที่ปรึกษา บมจ.วิริยะประกันภัย ผู้สนับสนุนโครงการ ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนในสังคม ซึ่งสังคมโรงเรียนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการอบรมบ่มเพาะและสร้างสมทั้งองค์ความรู้ และวิธีในการใช้ชีวิตของเด็กและเยาวชนในอนาคต หากโรงเรียนเป็นที่ปลอดภัยเด็กและเยาวชนทุกคนต้องเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ และคุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.วิริยะประกันภัย เข้าร่วมเป็นวิทยากรในหัวข้อ“บูลลี่ ในสังคมไทย” โดยการให้ความรู้ด้านวิธีการจัดการและจัดระบบความคิด ทัศนคติต่าง ๆ ในสถานการณ์ที่ถูกการบูลลี่ รวมถึงการเรียนรู้และเข้าใจถึงความแตกต่าง และการยอมรับซึ่งกันและกัน รวมถึง Facebook Fanpage Because We Care และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ที่ให้องค์ความรู้ และวิทยากร ที่นำประสบการณ์ต่าง ๆ มาร่วมกันสร้างกระบวนการในการป้องกันและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่เด็กและเยาวชนในสังคม