รองปลัด ยธ.ยัน “ทักษิณ” นอน รพ.ตำรวจ ส่งต่อเอกชนหรือไม่แล้วแต่ดุลพินิจแพทย์ แจงไม่เปลี่ยนชุด-ตัดผมรอพ้นระยะกักโรค

MGR Online - รองปลัด ก.ยุติธรรม ยืนยัน “ทักษิณ” ยังรักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจ ไม่มีการส่งต่อ รพ.เอกชน เว้นแต่แพทย์พิจารณา หากคิดว่า่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ส่วนภาพรักษาอาการป่วยเผยแพร่ไม่ได้ตามสิทธิผู้ต้องขัง พร้อมแจงยังไม่ตัดผม-เปลี่ยนชุด รอพ้นระยะกักโรคก่อน

วันนี้ (24 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอนรักษาอาการป่วยกำเริบในโรงพยาบาลตำรวจ ว่า วันนี้ยังไม่ได้รับรายงานอาการล่าสุดของนายทักษิณ แต่คาดว่าทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพราะอยู่ในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์อยู่ และตนเองมั่นใจว่าแพทย์โรงพยาบาลตำรวจสามารถดูแลและรักษาอาการของนายทักษิณได้ ยืนยันนายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจแต่ไม่สามารถเผยแพร่ภาพการรักษาได้เพราะเป็นตามสิทธิผู้ต้องขัง

นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า การดูแลชีวิตผู้ต้องขังเป็นเรื่องจำเป็น หากโรงพยาบาลตำรวจไม่สามารถดูแลและยื้อชีวิตผู้ต้องขังไว้ได้ ก็จำเป็นต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น โดยพิจารณาตามข้อมูลทางการแพทย์ ไม่สามารถใช้ความรู้สึกได้ แต่ตอนนี้ยืนยันยังไม่ต้องย้ายไปโรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลอื่นตามที่มีกระแสข่าว และหากจำเป็นต้องย้ายโรงพยาบาล ก็เป็นดุลยพินิจของแพทย์และกรมราชทัณฑ์ ในการพิจารณาว่าจำเป็นต้องย้ายไปยังโรงพยาบาลใด ญาติไม่มีสิทธิ์เลือกโรงพยาบาล

“ส่วนการรักษานั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ แต่ในด้านการรักษาความปลอดภัย ก็มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปเฝ้าอย่างน้อย 4 คน การติดต่อสื่อสารต่างๆ ต้องผ่านทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพราะนายทักษิณยังอยู่ในการดูแลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจะมีตำรวจเข้าไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง เพราะปัจจุบันสังคมแบ่งเป็นหลายขั้ว หากไม่ดูแลอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา แล้วจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย สำหรับการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ เป็นไปตามหลักเกณฑ์กรมราชทัณฑ์กำหนด ในช่วง 5 วันแรก ห้ามเยี่ยม จากนั้นให้แจ้งไปยังกรมราชทัณฑ์ลงชื่อเข้าเยี่ยมต้องเป็นญาติ ห้ามเกิน 10 คน และทำตามระเบียบโรงพยาบาลตำรวจ แต่หากไม่ใช่ญาติ เป็นบุคคลสำคัญอื่นมาขอเยี่ยม ก็ต้องสอบถามเจ้าตัวว่าประสงค์ให้เข้าเยี่ยมหรือไม่”

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอาการของนายทักษิณหนักเพียงใด ถึงต้องมีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจและให้กลับมายังเรือนจำฯ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เป็นเรื่องปกติที่นักโทษใหม่เข้าไปในเรือนจำจะเกิดภาวะอาการเครียด บวกกับมีโรคประจำตัวถึง 4 โรครุมเร้า โดยเฉพาะอาการความดันโลหิตสูง จึงทำให้นายทักษิณเกิดอาการล้มป่วยง่าย จากนี้หากกลับเรือนจำต้องให้อาการนายทักษิณเข้าสู่ภาวะปกติ และให้แพทย์รายงานมายังกรมราชทัณฑ์ตามอำนาจหน้าที่เพราะไม่อยากให้เกิดการเจ็บป่วยซ้ำ ส่วนตัวเห็นล่าสุดตอนนายทักษิณเข้าเรือนจำ ลักษณะเสื้อผ้าใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็กสีกรมท่า ช่วง 10 วันแรกกักโรคน่าจะยังไม่มีเปลี่ยนชุดอะไร ขึ้นอยู่กับทางเรือนจำฯ พิจารณาและยังไม่ตัดผม จนกว่าพ้นกักโรค และตัวเองไม่เคยพูดคุยกับนายทักษิณ เพราะเป็นหน้าที่ของเรือนจำฯ

ทั้งนี้ ตนเองเข้าใจว่ามีประเด็นคำถามมากมาย แต่กระทรวงยุติธรรมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า กรมราชทัณฑ์ได้ปฏิบัติตามระเบียบกติกาและกฎหมาย เชื่อว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่เอื้อปฏิบัติกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง สังคมก็น่าจะยอมรับได้