ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม น.ส.แพร วัย 35 ปี เจ้าของบัญชีม้า หลอกขายบัตรคอนเสิร์ต“BlackPink” ผู้ต้องหามักออกจากบ้าน เวลาหลังเที่ยงคืน เพื่อเลี่ยงถูกตำรวจติดตามตัว
วันนี้ (24 ก.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 155/2566 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2566 ตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 61 หมู่ 24 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จับกุม น.ส.ศศิธร หรือแพร ตานวล อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 24 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 155/2566 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 รับการร้องเรียนจากประชาชนมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Kaewnam Knnk” “lionil wang” “Oilly Jew” และ “Lookkeaw LK” หลอกขายบัตรคอนเสิร์ต “BlackPink” ในกลุ่มซื้อขายบัตรคอนเสิร์ตและทุกงานแสดง โดยใช้บัญชีรับโอนเงินชื่อบัญชี น.ส.ศศิธร ตานวล
จากการสืบสวน คนร้ายหลบซ่อนตัวไม่ออกจากบ้านมาเป็นเวลานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยติดตามตัวเพื่อนำไปดำเนินคดี แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว นานๆ จะออกจากที่พัก และเมื่อจะออกจากที่พักจะออกมาช่วงเวลาตีสองหรือตีสาม เป็นการอำพรางตัวเพื่อให้รอดพ้นจากการสืบสวนจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมมาดำเนินคดี จนสามารถจับกุมตัวได้ โดยแจ้งข้อหา ฉ้อโกงและโดยสุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยแจ้งว่าตนเรียนจบมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 เคยทำงานเป็นนักร้องที่โรงแรมในพื้นที่ภาคตะวันออก เคยทำงานเป็นเด็กในโต๊ะสนุกเกอร์ และเคยเดินทางไปเป็นพนักงานนวดที่เกาหลี ปี 2553 เคยถูกจับกุมข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่าย พร้อมกับแฟน ครั้งนั้นรับโทษในเรือนจำจังหวัดเชียงราย 4 ปี พ้นโทษออกมาช่วงปี 2557 ก็ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ตนได้เล่นเฟซบุ๊กและได้ไปเห็นโพสต์ในกลุ่ม ซื้อ-ขายบัญชี ทุกบัญชีธนาคาร จึงได้กดเข้าร่วมกลุ่มเข้าไป ต่อมาได้เห็นโพสต์ต้องการหาบัญชีธนาคารต่างๆ เช่น UOB CIMB และกสิกรไทย ซึ่งตนเองช่วงนั้นไม่มีเงินพอใช้ ประกอบกับติดเล่นพนันออนไลน์ จึงเกิดความสนใจจึงได้กดเข้าไปติดต่อสอบถามผ่านทางข้อความเฟซบุ๊ก ถูกเสนอราคาให้เปิดบัญชีในราคาบัญชีละ 300-500 บาท ซึ่งตนได้เปิดและขายบัญชีธนาคาร UOB ธนาคาร CIMB และธนาคารกรุงเทพ ให้กับเฟซบุ๊กดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 900 บาท และนำเงินที่ได้จากการขายบัญชีดังกล่าวไปเล่นพนันออนไลน์จนเสียหมดตัว
โดยที่ผ่านมา เคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยมาตามหาตน แต่ช่วงนั้นตนออกไปทำธุระนอกบ้าน เมื่อรู้ว่าตนมีหมายจับที่ตำรวจตามหาก็ได้เก็บตัวเงียบ จะออกจากบ้านช่วงหลังเที่ยงคืน หรือตีสองตีสาม เนื่องจากเกรงจะถูกจับกุมตัว โดยไม่คิดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นเข้าทำการจับกุมตนถึงในบ้านพัก
จากการตรวจสอบประวัติคดีของ นางสาวศศิธร ตานวล ในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบข้อมูลประวัติคดี จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย ปี 2553 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่าย ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย ปี 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย และ ปี 2566 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 155/2566 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ข้อหา ฉ้อโกงและโดยสุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ท้องที่ สภ.บางเลน ภ.จว.นครปฐม เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน จ.นครปฐม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากรูปแบบ ขอให้ทุกท่านได้โปรดใช้สติในการดำเนินชีวิตในสังคม เมื่อท่านเดือดร้อนจากคนร้าย สืบนครบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกกลุ่ม ไม่แบ่งแยกว่าใคร เพราะคือคนไทยด้วยกัน หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบช.น.