แห่ร้องกองปราบช่วยตามลากคอเสี่ยสายบุญกำมะลอ หลอกขายโควตาลอตเตอรี่ ก่อนหอบเงินกว่า 40 ล้าน หนีหายเข้ากลีบเมฆ
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่” พาผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.จันธิมา คุณโรจน์อัปสร รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุม นายทรงธรรม สุวรรณรัตน์ หรือ เสี่ยโม อายุ 42 ปี หลอกขายโควตาลอตเตอรี่ จนต้องสูญเงินไปกว่า 40 ล้านบาท
นายธมนันท์ กล่าวว่า นายทรงธรรม ผู้ต้องหา อ้างตัวเป็นนักธุรกิจสายบุญเจ้าของบริษัทก่อสร้าง มีทุนจดทะเบียนสองร้อยล้านบาท ก่อนออกอุบายว่ามีโควตาลอตเตอรี่มาขายให้ หากจะนำเอาไปขายเอง หรือถ้าจะฝากให้ช่วยขายก็จะได้ผลตอบแทนงวดละ 1,000 บาท ต่อ 1 เล่ม ซึ่งทำให้มีผู้สนใจร่วมลงทุนด้วยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดนนทบุรี ความเสียหายร่วมกันแล้วน่าจะเกิน 40 ล้านบาท
ด้าน นางเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี กล่าวว่า รู้จักกับเสี่ยโมเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะเพื่อนที่ทำงานแนะนำให้รู้จักว่า เป็นนักธุรกิจสายบุญ มีกิจการหลายอย่าง นิสัยส่วนตัวชอบทำบุญครั้งละเยอะๆ โดยเสี่ยโมอ้างมีโควตาลอตเตอรี่ อยากช่วยเหลือให้คนมีรายได้เสริม ตนจึงเกิดความสนใจก็ลองทุนครั้งแรก ซื้อไปเพียงไม่กี่เล่ม ตอนแรกก็ได้ลอตเตอรี่มาจริงๆ เพราะมีคนมาส่งให้ถึงบ้าน จึงเชื่อใจเพิ่มวงเงิน พร้อมชักชวนญาติให้มาร่วมลงทุนด้วย รวมกันแล้วประมาณ 9 ล้านบาท
นางเอ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มไม่ได้รับลอตเตอรี่ที่สั่งซื้อไป ทางผู้ต้องหาก็อ้างว่าเป็นผลกระทบจากคดี “น็อต กองสลากพลัส” ทำให้โควตามีปัญหา ตนพยายามทวงถามขอเงินคืนเรื่อยมา จนสุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ทราบต่อมาว่า ผู้ต้องหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จากนั้นก็หลบหนีไปไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงอยากให้กองปราบช่วยเร่งรัดคดีด้วยพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป