ลำปาง - “ปลัดอำเภอแม่เมาะ-ภรรยา จนท.ปกครองฯ” ชิงยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว..หลังถูกชาวบ้านรวมตัวแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ชวนชาวบ้านร่วมลงทุนซื้อลอตเตอรี่ขายแลกปันผลงามมานานกว่า 2 ปี สุดท้ายหาหวยไม่ได้-เส้นทางเงินสะดุด ทุนหายกำไรหด เสียหายกันไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน
หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า..มีปลัดอำเภอพร้อมภรรยาที่เป็นข้าราชการ หลอกชาวบ้านร่วมลงทุน โดยมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันตลอดวันนี้ (10 ก.ค. 66) ได้มีผู้เสียหายกว่า 10 คน พร้อมทนายความได้เดินทางไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง หลังสูญเงินจากการไปร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่หลักหมื่น หลักแสน ไปจนถึงหลายล้านบาท
นายศุภสิทธิ์ สิทธิรักษ์ ทนาย พร้อม ทนายความของกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า ผู้เสียหายคดีนี้มีจำนวนมาก เบื้องต้นเชื่อว่าถูกหลอกลวงเพราะบางคนได้หวย บางคนไม่เคยได้หวย ตอนนี้อยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูลหลักฐานว่าจะเข้าองค์ประกอบความผิดอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยมีผู้เสียหายประมาณ 15 คน ที่เดินทางมา สภ.เมืองลำปาง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท
พฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาคือชักชวนร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าจะมีโควตาตรงนี้แต่ละคนจะได้กี่เล่ม หรือกี่กล่อง ซึ่งมีการทำสัญญาระหว่างกัน แต่ต้องขอเวลาในการรวบรวมหลักฐานประมาณ 1-2 เดือน น่าจะได้ข้อมูลครบทั้งหมด
ด้านนายจรรยวรรธน์ ผิวสุวรรณ อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้หลอกลวงมีพฤติกรรมชักชวนให้จองลอตเตอรี่ล่วงหน้า ตนกับเพื่อนลงทุนไปกว่า 5 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ก็ได้เห็นลอตเตอรี่ที่ร่วมลงทุน แต่งวด 1 ก.ค.ที่ผ่านมาสั่งไปทั้งหมด 68,800 ฉบับ กลับไม่ได้ลอตเตอรี่และเมื่อติดต่อกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อได้
“การลงทุนนี้มีทั้งได้ลอตเตอรี่มาจำหน่ายเองและฝากให้ผู้ชักชวนจำหน่ายด้วย แต่ละงวดผมจะได้รับผลตอบแทนแต่ละงวด 120,000-300,000 กว่าบาท”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายพนมพร ตุ้ยกาศ นายอำเภอแม่เมาะ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของปลัดอำเภอผู้ถูกกล่าวหา ทราบว่าวันนี้หลังมีข่าวออกไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯ พร้อมด้วยปลัดจังหวัด ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริง ณ ที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ ซึ่งทราบว่าปลัดฯ ที่ถูกอ้างถึงนั้นคือ ปลัดเข้ม และ ภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอแม่เมาะด้วย
ซึ่งตนได้สอบถามจากบุคคลใกล้ชิดกับปลัดเข้มและภรรยา ได้ความว่า นางสาวณี (นามสมมติ) ภรรยาปลัดเข้ม ได้ลงทุนซื้อลอตเตอรี่จากคนที่ได้โควตา แล้วนำมาจำหน่ายต่อให้ผู้ค้าสลากรายย่อย/แผงจำหน่ายลอตเตอรี่ ภายหลังเห็นว่าได้ผลตอบแทนมาก จึงได้มีการชักชวนบุคคลอื่นมาลงทุนเพิ่มเติมแล้วแบ่งผลกำไรกันมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีมาแล้ว โดยเงินลงทุนบางส่วนได้ทำเป็นสัญญาเงินกู้และบางส่วนไม่ได้ทำสัญญากันไว้
กระทั่งประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ทราบว่าเริ่มมีปัญหาการขาดทุน เนื่องจากหาลอตเตอรี่มาจำหน่ายให้ผู้ค้าไม่ได้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ จึงได้ไปหาหวยชน ซึ่งเป็นลอตเตอรี่ที่มีจำหน่ายในงวดนั้นๆ มาแทน ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้น จากที่อื่นมาจำหน่ายให้ผู้ค้า แต่ยังส่งผลตอบแทนให้ผู้ร่วมลงทุนเป็นปกติ คือทุก 5 วันหลังจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล และยังมีการลงทุนเพิ่มโดยหาผู้ร่วมลงทุนอีก จนถึงประมาณต้นเตือนกรกฎาคม 2566 นี้ก็เริ่มมีบุคคลที่ร่วมลงทุนติดตามสอบถามหาบุคคลทั้งสอง ว่าไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ จึงได้มีการติดตามทวงถาม
เมื่อตนทราบเรื่องจึงได้หาข้อมูลการลงทุนของทั้งคู่ ซึ่งน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท แต่มีบางส่วนได้รับผลตอบแทนไปแล้วหลายล้านบาทเช่นกัน
ทั้งนี้ ปลัดเข้มและภรรยา ที่เป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง เดิมประจำอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เพิ่งย้ายมาไม่กี่เดือน ได้ยื่นใบลาพักผ่อนตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ต่อมาได้ยื่นใบลาพักผ่อนอีก ตั้งแต่วันที่ 10-21 กรกฎาคม 2566 พร้อมกันนั้นยังได้ฝากใบลาออกจากราชการไว้กับญาติสนิท และจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้ สอบถามจากญาติสนิททราบว่าไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากฝากไปถึงปลัดเข้ม หากทราบข่าวนี้ก็อยากให้กลับมาให้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนใบลาออกของทั้งสองคนนั้นยังต้องส่งให้ทางจังหวัดพิจารณาก่อนว่าสมควรให้ลาออกหรือไม่อย่างไร
