“ทนายเดชา” ฟ้องกลับ “ส.ว.เสรี” หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังถูกฟ้องพร้อม "ทนายอั๋น" และประชาชนที่หมิ่นประมาท-คุกคามครอบครัว ส.ว. ลั่นตนเองไลฟ์สดไม่เคยเอ่ยชื่อ ส.ว.คนใด แค่พูดแทนใจคนดู ไล่เอาเวลาไปดูแลตลาดดีกว่า ย้ำหากประชาชนถูกฟ้อง จะช่วยเหลือด้านคดีให้
ที่ศาลอาญามีนบุรี เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ (18 ก.ค.) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้ยื่นฟ้อง นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรณีแถลงข่าวว่าได้ดำเนินการฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญากับทนายความชื่อดัง 2 คน คือตนเอง กับ ทนายอั๋น และประชาชนที่แสดงความคิดเห็นโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท กระทบต่อธุรกิจของครอบครัว และเครือญาติของ ส.ว. จึงเดินทางมาศาลอาญามีนบุรี เพื่อฟ้อง ส.ว.เสรี พร้อมโชว์หลักฐานการฟ้องกลับ ที่เป็นคำพูดของนายเสรี ได้พูดว่าประชาชนเป็นพวกอันธพาล ด่าประชาชนว่าโง่ พูดถึงกลุ่มคนเห็นต่างทางการเมืองเป็นพวกทำลายชาติ ทำลายสังคม ทำลายวิถีชีวิตที่ดีงามของประเทศไทย ซึ่งตนมองว่าคำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่หมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นายเดชา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่นายเสรีนำมาฟ้องนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ตนไลฟ์สด แสดงความคิดเห็นทางการเมืองซึ่งเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญและข้อความที่พูดในไลฟ์สดนั้น ไม่เคยเอ่ยชื่อ ส.ว.คนใด แต่กลับมีคนร้อนตัวมาฟ้อง อีกทั้งทุกอย่างที่ตนพูดเป็นความจริง ทั้งที่บอกว่า เงินเดือนของ ส.ว.นั้นมาจากภาษีประชาชน ต้องรำลึกบุญคุณของประชาชน ต้องเป็นกลางและฟังเสียงของประชาชน และหนักแน่นยอมรับคำวิจารณ์ของประชาชน เพราะเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของตำแหน่ง ส.ว. รวมถึงการที่ตนพูดว่า ส.ว.บางคนนั้นเผด็จการ ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร และยืนยันว่าที่ตนพูดในไลฟ์สดนั้นเป็นสิ่งที่พูดแทนใจคนดู
นายเดชา กล่าวว่า ยังพูดถึงความคิดเห็นส่วนตัวอีกว่า การที่ ส.ว.ฟ้องทนายความในข้อหาหมิ่นปนะมาท นั้นเป็นปิดปากทนายความและเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว เพื่อให้ประชาชนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนขอประกาศว่าอยากกลัว เราต้องกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะตนเองก็ไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไร แต่หากประชาชนคนไหนไม่ว่าใครที่โดน ส.ว.ฟ้องให้มาบอกตนเองได้เลยตนเองจะช่วยเหลือทางคดีให้
นอกจากนี้นายเดชา ทนายความ ยังกล่าวถึงหน้าที่ของ ส.ว.ว่าต้องโหวตตามเสียงข้างมาก เพราะเมื่อปี พ.ศ.2562 ส.ว.ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาก็มีการโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากขณะนั้น แต่ทำไมในปี พ.ศ. 2566 ถึงไม่โหวตตามเสียงข้างมากที่เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล
“ฝากไปถึง ส.ว.เสรี ในฐานะคนที่เคยรู้จักกันมานานและเคยว่าความร่วมกันมาว่าให้เอาเวลาที่ฟ้องประชาชน ไปดูแลตลาดให้ดี เพราะตอนนี้ไม่มีใครไปเดินแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นผลที่ทำไว้กับประชาชนก็ได้ และอยากขอให้ฟังเสียงของประชาชนอย่าเอาเรื่องถูกคุกคามมาเป็นข้ออ้างในการไม่โหวตนายพิธา และมองว่า การที่ประชาชนไม่สนับสนุน ธุรกิจเครือญาติของ ส.ว.นั้นถือไม่เป็นความผิดหรือว่าคุกคามเพราะเป็นวิธีการที่ต่างประเทศก็ใช้กัน” นายเดชากล่าว
ทั้งนี้ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว ศาลอาญามีนบุรี ได้รับคำฟ้องไว้ และนัดไต่สวนมูลโจทก์ฟ้องวันที่ 4 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.