หนุ่มรุ่นหึงหวงแฟนสาววัย19 ปี ใช้มีดปลายแหลมกระหน่ำแทงที่หน้าอก ช่องท้อง ลำคอและใบหน้า จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะกระโดดตึกชั้น 3ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ต.ประสิทธิ์ สายตรง สว.(สอบสวน)สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้กระโดดลงมาจากตึกชั้น 3ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดที่อาคาร 21 โครงการเอื้ออาทรมีนบุรี ถนนรามอินทรา แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้นอยู่ภายในโครงการเอื้ออาทรมีนบุรี อาคารที่ 21 บริเวณบันไดทางเดินชั้น 3 และชั้น 4 พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อน.ส.พรชนก ปัดถม อายุ 19 ปี(กิ๊ฟ)มีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอก ช่องท้อง ลำคอและใบหน้าด้านซ้าย เสียเลือดเป็นจำนวนมาก สวมเสื้อยืดสีฟ้าคอปก กางเกงขายาวลายสก๊อต ใกล้กันพบอาวุธมีดปลายแหลม ที่ด้ามมีการพันผ้าเทปสีแดงไว้กันลื่น ตกอยู่บริเวณบันได 1 เล่ม
ขณะเดียวกันผู้ที่ก่อเหตุเป็นชายทราบชื่อต่อมาว่า นายณัฐชนน งั่งสัมฤทธิ์ อายุ 20 ปี ได้กระโดดลงมาที่บริเวณแทงก์เก็บน้ำบริเวณด้านข้างของตัวอาคารดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเสรีรักษ์
จากการสอบถาม น.ส.รัศษุภา เทพสา อายุ 51 ปี เป็นผู้จัดการนิติบุคคล 1 ที่ดูแลอาคาร 21 ทราบว่า ขณะเกิดเหตุพบชายคนดังกล่าวกำลังกระโดดตึกเพื่อจะฆ่าตัวตาย ตนพยายามเกลี้ยกล่อมว่า ให้ใจเย็น ๆ ทุกอย่างมีทางออก โดยผู้ก่อเหตุได้บอกกับตนว่าผมอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะฝ่ายหญิงตายแล้ว ก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงมา จากนั้นตนได้เห็นร่างของผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณบันไดชั้น 3 และ 4 สำหรับผู้ก่อเหตุทราบว่าเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยเป็นหลานเจ้าของห้องพักเลขที่ 35/28 อยู่ชั้น 4 โดยที่ห้องดังกล่าวผู้ก่อเหตุอยู่กับญาติหลายคน ส่วนฝ่ายหญิงจะไปมาหาสู่เป็นประจำ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบจากทางญาติของฝ่ายชาย ว่าฝ่ายหญิงอาจมีผู้ชายมาติดพัน ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความหึงหวง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์รวมถึงอาวุธมีดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรที่นิติเวชรพ.ตำรวจ ก่อนมอบศพให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา ส่วนผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปสอบสวนภายหลังก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป