จำคุก 3 ปี หญิงสาว โพสต์ภาพตัดต่อหมิ่นเบื้องสูง สารภาพเหลือจำคุก 1 ปีครึ่ง ไม่รอลงอาญา ศาลชี้พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จำเลยกระทำความผิดโดยรู้สำนึก
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีดูหมิ่นเบื้องสูง อ.429/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วารุณี วีระศักดิ์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ พ.ศ.2550
อัยการโจทก์ระบุฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2564 จำเลยแสดงอาฆาตมาดร้าย โดยเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Warunee Weerasak โพสต์ข้อความและภาพสาระสำคัญว่า "แก้วมรกต Sirivannavari Bangkok ขณะที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงประกอบพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว พระแก้วมรกต ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยตัดต่อหรือดัดแปลงภาพด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ และเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ เพื่อให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ตลกขบขัน และถูกด้อยค่า รวมทั้งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่เคารพต่อองค์พระแก้วมรกตที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย
คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพ
จึงพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ,206 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550มาตรา14(3) เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุด จำคุก 3 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก1 ปี 6 เดือน
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานสืบเสาะและพินิจแล้ว จำเลยกระทำผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั่วไป พฤติการณ์จึงเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยมีปัญหาสุขภาพจิต แต่กระทำผิดโดยรู้สำนึกในการกระทำ กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษแก่จำเลย ให้ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลาง
