รอง ผบ.ตร.เผย เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับคนใกล้ชิด “แอม ไซยาไนด์” ฐานร่วมกันฆ่าและสนับสนุน หลังพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการสรุปสำนวนคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาฆ่าวางยาไซยาไนด์ ว่า หลังจากการร่วมหารือกับอธิบดีอัยการคดีอาญา 2 ครั้ง ขณะนี้สำนวนมีความรัดกุมและสมบูรณ์ เตรียมพร้อมที่จะส่งให้อัยการภายในสัปดาห์หน้า โดยวันที่ 19 มิ.ย.นี้ จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและสนับสนุน กับบุคคลใกล้ชิดกับแอม เนื่องจากพบพยานหลักฐานสำคัญทั้งเส้นทางการเงินอย่างน้อย 4-5 คดี
โดยพบความเชื่อมโยงทั้งก่อน และหลังเกิดเหตุการเสียชีวิต รวมไปถึงเส้นทางการเงิน พบทุกครั้งที่มีการเสียชีวิต จะมีการโอนเงินเข้าไปยังคนใกล้ชิด โดยในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีการโอนกี่ครั้ง หรือครั้งละเท่าไร อีกทั้งยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวมีส่วนรู้เห็นกับการตายทั้ง 4-5 คดีด้วยหรือไม่
ส่วนสาเหตุที่เพิ่งมาแจ้งข้อหาเพิ่ม เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่พบหลักฐาน แต่หลังจากตรวจสอบบัญชีกว่า 200 บัญชี และนำมาวิเคราะห์กลับพบว่ามีความเชื่อมโยง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า การส่งสำนวนในครั้งนี้จะส่งให้ทันภายฝากขังครั้งที่ 4 โดยเหลือเวลาให้อัยการพิจารณาสำนวนคดีอีก 3 ครั้ง หรือกว่า 1 เดือน และเชื่อว่า สำนวนมีความสมบูรณ์มากที่สุด ที่จะเอาผิดกับแอมได้ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหากับ แอม พนักงานสอบสวนได้แจ้งไปคดี และ 6-7 ข้อหา ทำให้ทั้ง 15 คดี แอม มีข้อหารวมกว่า 80 ข้อหา ที่การกระทำเกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระกัน แต่ไม่ได้กังวลอะไร เพราะข้อหาหลักคือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพียงข้อหาเดียวก็มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เว้นแต่ว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพในชั้นศาล ศาลอาจมีเหตุบรรเทาโทษ ให้จำคุกตลอดชีวิต