ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง “ยุทธิยง” พิธีกร News1 พร้อมผู้ร่วมรายการ “สภากาแฟ” คดีที่สหกรณ์วิเศษชัยชาญ ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท หลังนำเสนอปัญหาการจัดซื้ออาหารส่งเรือนจำ ชี้ ดำเนินรายการเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ อยู่ในครรลองคลองธรรมอันสุจริต
วันนี้ (10 พ.ค.) เวลา 09.00 ที่ศาลจังหวัดอ่างทอง ได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่สหกรณ์วิเศษชัยชาญได้ยื่นฟ้องนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรรายการ “สภากาแฟ” ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 และผู้ร่วมรายการ ในคดีหมิ่นประมาท จากกรณีการทำรายการสภากาแฟ ในเดือนมีนาคม ปี 2559 เกี่ยวกับคุณภาพอาหารและการจัดซื้ออาหารเข้าสู่เรือนจำ ซึ่งทางชมรมผู้ค้าอาหารได้มาร้องเรียนกับทางสถานีโทรทัศน์ ถึงขั้นตอนการใช้งบประมาณของรัฐในการจัดซื้ออาหารที่ควรมีประสิทธิภาพ และผู้ต้องขังควรจะได้รับอาหารที่มีคุณภาพบ้างในชีวิตของผู้มีกรรม ปรากฏว่า ทางโจทก์ผู้ได้รับสัมปทานส่งอาหารให้เรือนจำได้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทต่อผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์และผู้มาร้องเรียนและให้สัมภาษณ์ในรายการสภากาแฟเป็นจำเลย
คดีนี้มีการใช้อำนาจอันผิดปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักอ่างทอง มีการเร่งรัดอย่างรีบเร่งโดยออกหมายจับนายยุทธิยง ด้วยเหตุผลที่ว่า “เป็นบุคคลที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่สามารถติดตามหาได้ที่ไหนจึงออกหมายจับตั้งไว้” ทั้งที่ นายยุทธิยง เป็นสื่อมวลชนอาวุโสที่ทำงานมากกว่า 30 ปี และจัดรายการเป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่สถานีโทรทัศน์ News1
คดีนี้ ศาลจังหวัดอ่างทองได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2565 ยกฟ้องจำเลยที่ 1 นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และจำเลยที่ 2 และ 3 เพราะถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างสุจริต และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองในการใช้เงินภาษีของแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ และได้ใช้สิทธิโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมแห่งทำนองคลองธรรม
ล่าสุด ในวันนี้ (10 พ.ค.) มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้งสามที่ออกรายการเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม เพื่อป้องกันส่วนได้ส่วนเสียตามครรลองคลองธรรม พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น