“อัจฉริยะ” จี้สอบตำรวจห้วยขวาง-อดีต ผกก.รับสินบน

นายอัจฉริยะ เข้ายื่นหนังสือ รอง ผบ.ตร.ขอให้ตรวจสอบการทำคดีของตำรวจ สน.ห้วยขวาง และอดีต ผกก.รับสินบน

วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ สโมสรตำรวจ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. 2 คดี โดยคดีแรกเป็นพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวางร่วมมือกับซินแสและคดีรับสินบนของรักษาการ ผกก.สน.ห้วยขวาง

โดย นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนมาร้องเรียนในกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมมือซินแสคนหนึ่ง ซึ่งรู้จักตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 60 และแจ้งความคดีฉ้อโกงทรัพย์เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 60 จำนวนเงิน 1.55 ล้านบาท กับผู้เสียหาย หลังจากซินแสรายดังกล่าวแจ้งความแล้วได้มีการบังคับให้ผู้เสียหายร่วมหลับนอนที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 61 และได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 61 และจับกุมได้วันที่ 20 ธ.ค. 61 พร้อมฝากขังศาลแขวงพระนครเหนือเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 61 นอกจากนี้ ได้มีการทำเอกสาร 3 ฉบับ เป็นหนังสือรับสารภาพหนี้ 3.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินคดีทางแพ่งแต่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญา ทั้งนี้ ซินแสรายดังกล่าวได้มีการโอนเงินให้ผู้เสียหายแทบทุกวัน ระหว่างหมายจับออก ก็ยังมีการเดินทางร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางครั้งนั้นมีการบังคับร่วมเพศ อนาจาร และส่งภาพเซ็กซ์โฟน แทบทุกวัน ซึ่งคดีนี้ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 กับพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง เป็นผู้ดำเนินคดีและออกหมายจับ ซึ่งวันที่ออกหมายจับไม่ตรงกับวันที่เกิดเหตุ

ส่วนอีกคดีเกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. 65 โดยมีชุด ศปส.ตร. ออกหมายจับชาวมาเลเซีย 2 ราย มาส่ง สน.ห้วยขวาง โดยมีการเจรจากับเจ้าของบ่อนแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท เพื่อให้ปล่อยตัวชาวมาเลเซียรายดังกล่าวกับรักษาการ ผกก.สน.ห้วยขวาง ซึ่งทำให้ตนได้ทราบว่า พนักงานสอบสวนได้มีการเรียกรับสินบนจึงได้มาเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดำเนินการตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ กรณี นายอัจฉริยะ ยื่นเรื่องร้องดังกล่าว ทาง พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ดำเนินการทางกฎหมายอดีต ผกก.สน.ห้วยขวาง หลังได้รับทราบข้อมูลทั้งหมด มาสอบสวนพร้อมขยายผล สั่งการดำเนินการตรวจสอบเพื่อทำความจริงให้ปรากฎ โดย ผกก.สน.ห้วยขวาง และพนักงานสอบสวนที่เบี่ยงเบนคดี เรื่องเเพ่งเป็นอาญา มีการละเว้นและปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะบังคับใช้กฎหมายทำความจริงให้ปรากฏ คาดว่า ใช้เวลาไม่นานภายหลังสงกรานต์จึงจะทราบผลต่อไป