“อัจฉริยะ” จี้ ปปง.ให้ “พล.ต.ต.เอกรักษ์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ หวั่นแทรกแซงคดี

MGR Online - “อัจฉริยะ” ลุยร้อง ปปง. สอบวินัยร้ายแรง “พล.ต.ต.เอกรักษ์” ขอมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติงาน เกรงแทรกแซงการตรวจสอบ หลังเอี่ยวเว็บพนัน-ลักรถ ผกก.โจ้

วันนี้ (7 เม.ย.) เวลา 15.00 น. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.สุปราณี สถิตชัยเจริญ ผอ.กองความร่วมมือและพัฒนามาตรฐาน ในฐานะรองโฆษก ปปง. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบ กรณี พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. เรียกรับสินบนจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ “KINGPIN88.COM” รวมทั้งขอให้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ราชการเพราะอาจใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้ามาแทรกแซงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มาร้องขอให้ ปปง. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหลายประเด็น 1. กรณี พล.ต.ต.เอกรักษ์ และ นางชลลดา ลิ้มสังกาศ ภรรยา ร่วมกันฟอกเงินจากเว็บพนันออนไลน์ 2. ดำเนินการตรวจสอบวินัยร้ายแรงเกี่ยวข้องกับถุงเงิน 6 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.ต.เอกรักษ์ อาจจะอยู่หรือไม่อยู่ในวันเกิดเหตุแต่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของเว็บพนัน มีความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ เบื้องต้นทราบว่ามีสอบปากคำพยานหลายรายพบว่ามีบุคคลให้การเท็จ 3. กรณีการเรียกรับสินบนจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ 560,000 บาท และ 4. กรณีร่วมกันลักทรัพย์รถยนต์ของ ผกก.โจ้

“คดีลักรถ ผกก.โจ้ มั่นใจว่าร่วมกันทำผิดแน่นอน และหลักฐานไฟล์วิดีโอของบุตรชายเขาที่ยืนยันว่ารถคันที่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ นำป้ายทะเบียนไปใส่รถเบนซ์ เป็นทรัพย์สินของ ผกก.โจ้ และลูกชายก็ยอมรับขายรถไปจริง โดยมีทนายความ 2 คนที่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ จ้างวานจัดหามา ราคา 8.5 ล้านบาท โดย 6 ล้านบาทได้รับไปแล้ว ขณะที่ 2.5 ล้านบาท ไม่แน่ใจว่ามีการจ่ายหรือยัง”

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า พล.ต.ต.เอกรักษ์ ในฐานะ รองเลขาธิการ ปปง. แต่มีเกี่ยวพันคดีต่างๆ สมควรลาออกจาก ปปง. และมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 และตามหนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร 1011/ว 4 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง การกำชับให้ใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยร้ายแรง ผู้ใดต้องหาคดีอาญา ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพราะอาจใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้ามาแทรกแซง หากพ้นมลทินค่อยกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อได้

เมื่อถามว่า ในกรณีที่รองเลขาธิการ ปปง. ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เกรงว่า จะไม่ได้รับการตรวจสอบหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในการทำงานของบอร์ด ปปง. และไม่ขอก้าวล่วง แต่สิ่งสำคัญทั้งหมดขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะออกมาปราบปรามการทุจริตของข้าราชการจริงจังหรือไม่ และอยากขอให้เจ้าหน้าที่ ปปง. ลุกขึ้นสู้ในเรื่องนี้ด้วย เพราะถ้าระดับผู้บริหารไปมีความเกี่ยวข้องในเรื่องเช่นนี้ มันก็สามารถใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์ได้

นายอัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ภายในสัปดาห์หน้า ตนจะเดินทางไปร้องเรียนต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบในประเด็นความร่ำรวยผิดปกติของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ และบุตรชายที่เป็นนายตำรวจ และจะไปร้องขอให้อัยการสูงสุดเร่งรัดตรวจสอบสำนวนคดี “KINGPIN88” ของพนักงานอัยการ เนื่องจากดองมาสองปีแล้ว

ด้าน น.ส.สุปราณี เผยว่า ปปง. มีระเบียบการตรวจสอบพิจารณาตามขั้นตอน ทั้งนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังคงมาปฏิบัติราชการปกติ เนื่องจากในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งบางเรื่องอาจจะเกิดขึ้นตอนที่ยังไม่รับตำแหน่ง รองเลขาธิการ ปปง. คือไม่ได้อยู่ที่หน่วยงานนี้ หรือบางเรื่องอาจเกิดขึ้นในขณะที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องไปตรวจสอบให้ครบถ้วน