MGR Online - ตำรวจนครบาลแถลงข่าวสืบ 1 ตามล่าเครือข่ายยาเสพติด 2 คน ขับกระบะทิ้งยาไว้ให้ลูกค้าที่ริมถนนเลียบคลองสงวนโภคัย บางเลน แต่หลบหนีไปได้ ก่อนค้นบ้านเจอ 2 ภรรยา พร้อม ไอซ์ 48 กก. ยาบ้าอีกล้านกว่าเม็ด
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 แถลงข่าว พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และ ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 จับกุม น.ส.ชนิดา หรือนุ่น (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี และ น.ส.เบญจรัตน์ หรือแป้ง (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ 93 กก. ยาบ้า 1,014,000 เม็ด รถกระบะ 1 คัน ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 1 ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม
พล.ต.ต.สำเริง กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ได้รับเบาะแสว่า นายถวิล หรือ แบงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี และ นายนพดล หรือ โชค (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้รถกระบะในการนำยาไปวางให้ลูกค้า ที่บริเวณริมถนนเลียบคลองสงวนโภคัย ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม และเก็บยาเสพติดไว้ที่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 1 ต.ลำพญา ต่อมาวันที่ 7 เม.ย. สืบทราบว่า นายนพดล จะนำยามาวางให้ลูกค้าที่ริมทางถนนเลียบคลองฯ จึงนำกำลังตำรวจไปเฝ้าสังเกตการณ์ และแบ่งกำลังส่วนหนึ่งเฝ้าบ้านเลขที่ 8/1
กระทั่งพบ นายนพดล ขับรถมาที่ถนนเลียบคลองฯ แล้วนำถุงพลาสติก สีดำ 2 ถุง ไปวางไว้ริมถนนดังกล่าว จากนั้นขับกลับมาจอดบ้านเลขที่ 8/1 จากการตรวจสอบถุงพลาสติก 2 ถุง พบไอซ์ 45 กก. ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นส่งสัญญาณให้ตำรวจอีกชุดเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 8/1 ปรากฏว่า พบ น.ส.ชนิดา ภรรยา นายถวิล และ น.ส.เบญจรัตน์ ภรรยา นายนพดล จากการตรวจค้นพบไอซ์อีก 48 กก. ยาบ้า 1,014,000 เม็ด และรถกระบะ 1 คัน
พ.ต.อ.วิชัย กล่าวว่า จากการสอบถามทั้งสองให้การว่า นายถวิล และ นายนพดล ไหวตัวทันได้หลบหนีไปแล้ว ยาเสพติดลอตดังกล่าวถูกลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ แล้วนำมาเก็บไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีคนสั่งการ นายถวิล แล้วสั่งต่อมายัง นายนพดล อีกที ให้นำยาไปส่งตามจุดต่างๆ ส่วนประเด็นช่วงนี้มีการนำยามาเก็บไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อเตรียมไว้สำหรับจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์นั้น อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายและเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกสองคนรวมถึงขยายผลผู้สั่งการ
