รอง ผบ.ตร.แถลงผลงานตำรวจ ปส.จับ 6 เครือข่ายยาเสพติด ผู้ต้องหา 15 คน ยาบ้า 19 ล้านเม็ด ไอซ์ 9 กก. เฮโรอีน 12 กก. ยาเค 2 กก. และ Happy water 86 ซอง
วันนี้ (5 เม.ย.) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส.บช.ปส. พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้เดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดให้หมดสิ้น ล่าสุดตำรวจ ปส. ได้กวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด 6 เครือข่าย แย่งเป็น 6 คดี จับกุมผู้ต้องหา 15 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 19 ล้านเม็ด ไอซ์ 9 กก. เฮโรอีน 12 กก. คีตามีน 2 กก.และ ยาเสพติด Happy water 86 ซอง
โดยคดีแรก เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.3 บก.ปส.1 และ บก.ขส. พร้อมด้วยหน่วยข่าวกรองทางทหารศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายณัฐดนัย (สงวนนามสกุล) นายศุภกฤต (สงวนนามสกุล) และนายสำคัญ (สงวนนามสกุล) จากการสืบสวนและเฝ้าติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ พบความเคลื่อนไหวของนายณัฐดนัย พร้อมพวก จะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่กรุงเทพมหานคร กระทั่งกลางดึกของวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา พบรถกระบะหมายเลขทะเบียน ฎศ-73xx กรุงเทพมหานคร มีลักษณะบรรทุกของจำนวนมากและหนักผิดปกติ จึงติดตามไปจนพบรถคันดังกล่าว ขับไปจอดที่ห้องเช่า ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และช่วงสายของวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา มีรถยนต์ตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน บห-15xx อุดรธานี ขับมายังห้องเช่าดังกล่าวและผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ช่วยกันเคลื่อนย้ายกระสอบต้องสงสัย ไปยังรถยนต์ตู้ทึบ ตำรวจ ปส.1 และ บก.ขส. จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุในกระสอบ 20 กระสอบ รวม 9 ล้านเม็ด พร้อมตรวจยึดรถ 2 คัน และของกลางอื่น รวม 6 รายการ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดที่ ห้องเช่า ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. บช.ปส. พร้อมด้วยตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมนายสุรชัย (สงวนนามสกุล) และนายประจวบ(สงวนนามสกุล)หลังได้รับแจ้งว่า นายสุรชัย และนายประจวบ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ ส่งมอบให้กับลูกค้าทางพื้นที่ภาคกลางและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นประจำ ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. จึงสืบสวนติดตามกลุ่มเป้าหมาย จนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาขนยาเสพติดมาจากภาคเหนือ โดยใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒผ 95xx กรุงเทพมหานคร และ รถยนต์หมายเลขทะเบียน 1ฒฆ 96xx กรุงเทพมหานคร จึงติดตามจับกุม และสามารถจับกุมได้ภายในบริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาหันตรา ต่อเนื่องริมถนนเลียบแม่น้ำลพบุรี (บางปะหัน-มหาราช) อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พบยาบ้า 2 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในรถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒผ 95xx กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดรถ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิด ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
คดีที่ 3 วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส. จับกุมนายสุภชัย สงวนนามสกุล หลังได้รับแจ้งว่า นายสุภชัย พร้อมพวกจะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถกระบะ 2 คัน หมายเลขทะเบียน ยท 83xx เชียงใหม่ และหมายเลขทะเบียน บย 11xx แพร่ โดยใช้เส้นทางจากพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่าน จ.แพร่ ตำรวจ บก.สกส. จึงวางแผนจับกุม และสามารถสกัดจับกุมได้ที่ริมถนนในหมู่บ้านทุ่งแล้ง ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ พบยาบ้า 20 กระสอบ รวม 4 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในรถกระบะหมายเลขทะเบียน บย 11xx แพร่ และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส ได้ร่วมจับกุม นายนรินทร์ (สงวนนามสกุล) และ นายพัลลภ (สงวนนามสกุล) โดยตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้งสอง จนทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าในภาคกลาง จึงได้ติดตามจับกุม กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาโคกสำโรง ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ตรวจสอบพบยาบ้า 50 มัด ซุกซ่อนในรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ยก 79xx เชียงใหม่ รวม 1 แสนเม็ด พร้อมยึดรถที่ก่อเหตุ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ตำรวจ บก.สกส. ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า เครือข่ายนี้จะลำเลียงเฮโรอีน จากภาคเหนือ ไปส่งให้ลูกค้าในภาคใต้ โดยใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน ผล 91xx ชลบุรี เป็นยานพาหนะ จึงไปสกัดจับกุม โดยในวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเช้า ตำรวจ บก.สกส. สามารถจับกุมรถยนต์เป้าหมาย ได้ที่บริเวณลานจอดรถปั้มน้ำมัน ปตท.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พบนายไธพัตย์ สงวนนามสกุล เป็นผู้ขับขี่ และนายมนูญ สงวนนามสกุล นั่งไปในรถด้วย จากการตรวจค้นรถ พบเฮโรอีน จำนวน 12 ถุง น้ำหนัก 5 กก. ซุกซ่อนอยู่ในรถ จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.2 ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคีตามีน 290 กก.ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จนทราบว่า เครือข่ายนี้จะขนยาเสพติดจำนวนมากมาจากภาคอีสานไปส่งในภาคกลาง จึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว จนกระทั่งวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.00 น. พบรถเป้าหมาย คันหมายเลขทะเบียน กอ 1xx เชียงราย และรถกระบะหมายเลขทะเบียน กธ 73xx มหาสารคาม ขับขี่เข้าไปในปั้ม ปตท. ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 8 กระสอบ รวมประมาณ 3.2 ล้านเม็ด คีตามีน 2 กก. ยาเสพติด Happy water จำนวน 86 ซอง ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กอ 1xx เชียงราย มีนายพัฒนพงศ์ สงวนนามสกุล เป็นผู้ขับขี่ ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน กธ 73xx มหาสารคาม มีนายสุวิทย์ สงวนนามสกุล เป็นผู้ขับขี่ และบุญโชค สงวนนามสกุล นั่งโดยสารมาด้วย รับว่าทำหน้าที่สำรวจเส้นทาง จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
คดีสุดท้าย เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.3 จับกุมนายอดุลย์ สงวนนามสกุล และนายอเนก สงวนนามสกุล โดยก่อนการจับกุม ตำรวจ ปส.3 ได้สืบสวนทราบว่า นายอดุลย์และนายอเนก จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งลูกค้า โดยใช้รถกระบะหมายเลขทะเบียน 3ฒข 90xx กรุงเทพมหานคร และรถกระบะหมายเลขทะเบียน 2ฒค 10xx กรุงเทพมหานคร จึงเฝ้าติดตาม จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.3 สามารถจับกุมนายอดุลย์ ขณะกำลังขับขี่รถกระบะหมายเลขทะเบียน 3ฒข 90xx กรุงเทพมหานคร ได้ที่บริเวณโกดังสินค้า ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรวจค้นรถพบยาบ้า 9.9 แสนเม็ด ไอซ์ 9 กก. เฮโรอีน 7 กก. ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ จากนั้นได้ติดตามไปจับกุมนายอเนก พร้อมรถกระบะหมายเลขทะเบียน 2ฒค 10xx กรุงเทพมหานคร มาดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ตำรวจ ปส.จะสอบสวนเพื่อขยายผลหาผู้สั่งการขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป ขณะที่ยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น ตำรวจ ปส. จะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ อาทิเช่น สำนักงาน ป.ป.ส. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป