ผบก.ปปป. เผย เจอไดอารี่ลับ หัวหน้าฝ่ายรายได้ เขตราชเทวี เรียกรับสินบนผู้ประกอบการอสังหาฯ เลี่ยงภาษี พบมีผู้ร่วมขบวนการนับ 10 รับเงินใต้โต๊ะกว่า 100 ล้านบาท
วันนี้ (7 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายประมวล แสงแก้วศรี หัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับสินบนผู้ประกอบการเพื่อเลี่ยงจ่ายภาษี ว่า จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเอกสารหลักฐานต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเอกสารเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญต่อแนวทางสืบสวนสอบสวนคดี ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการประชุมแบ่งงานวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึดได้นั้นมีจำนวนมาก มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกว่า 100 เคส มีผู้ประกอบการที่ตกเป็นเหยื่อกว่า 100 ราย ซึ่งหลังจากนี้ อาจจะมีการเชิญตัวผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำในฐานะพยาน ปัจจุบันสอบไปแล้ว 4-5 ปาก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเข้าตรวจค้นห้องพักหญิงสาวคนสนิทของ นายประมวล เบื้องต้นพบข้อมูลการเงินผ่านเข้าบัญชีกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่ตัวนายประมวล ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่สำนักงานเขตพญาไท และ ราชเทวี ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแผนประทุษกรรมของนายประมวล จะพบว่า เมื่อได้เงินมาจะไม่ยอมนำมาเก็บไว้ใกล้ตัว ผ่องถ่ายไปที่บุคคลใกล้ชิดแทน รวมถึงนำไปลงทุนเช่าพระเครื่อง หรือ แปลงเป็นทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นการฟอกเงินหรือไม่ นอกจากนี้ จากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึดมาได้นั้น ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกว่า 10 รายชื่อ ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกด้วยว่า จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบพยานหลักฐานสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เป็นสมุดบันทึก หรือ ไดอารี่ ที่ นายประมวลเขียนบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินที่ได้มาถูกโอนไปให้กับใครบ้าง รวมไปถึงบันทึกโน๊ตขั้นตอนการสอนให้ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา นำไปใช้ในการเรียกเงินจากผู้ประกอบการ ซึ่งจากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่เชื่อว่าก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายเคส จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ครบทุกมิติ และเชื่อว่า ไม่ได้ทำเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ก็เชื่อว่าเพียงพอที่จะเรียกกลุ่มคนที่ต้องสงสัยว่าร่วมกระทำผิดเหล่านี้มาแจ้งข้อกล่าวหา แต่ขอเวลาตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนเพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ไม่มีละเว้น
“ส่วนเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ และ เงินหมุนเวียนในบัญชี จากการตรวจสอบพบรวมๆ แล้วมีประมาณ 100 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการต่างๆ ที่ตกเป็นเหยื่อ อยากขอให้มาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ มาเข้าให้ข้อมูล ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ เพื่อที่ปัญหาการทุจริตเหล่านี้จะได้ลดน้อยลงไป” ผบก.ปปป. กล่าว