xs
xsm
sm
md
lg

จำคุกม็อบรีเด็ม 12 ราย คนละ 3 ปี ปรับ 3 หมื่นกว่าบาท บุกป่วนหน้าศาลอาญา ส่วนหัวโจกอีกรายโดนคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



จำคุกม็อบรีเด็ม 12 ราย คนละ 3 ปี ปรับ 3 หมื่นกว่าบาท ป่วนหน้าศาลอาญา และซอยรัชดาฯ 32 ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานตำรวจ แต่ให้รอลงอาญา ส่วนหัวโจกอีกรายโดนโทษจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 2,000 กว่าบาท
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (28 มี.ค.) ห้องพิจารณา 916 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบรีเด็ม(REDEM ) ก่อความวุ่นวายหน้าป้ายศาลอาญา หมายเลขดำอ.1423/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายร่อซีกิน นิยมเดชา นายชาติชาย แกดำ กับพวกรวม 15 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ฯ

โดยอัยการระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2564 เวลากลางวัน ได้มีการร่วมชุมนุมกลุ่ม REDEM จากการเชิญชวนของผู้ใช้เฟซบุ๊กกลุ่มเยาวชนปลดแอก -(Free YOUTH)ให้มาชุมนุมที่ศาลอาญา ประมาณ 300-500 คน โดยนำรถยนต์ติดตั้งขยายเสียง โจมตี เรียกร้องให้ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวนายพริษฐ์ หรือเพกวิน ชิวารักษ์ กับพวกรวม 7 คน ฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงฯ โดยพวกจำเลยได้กล่าวโจมตี การทำงาน ดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษา ย้ายแท่นแบริเออร์บริเวณเกาะกลางถนนเพื่อเปิดจุดกลับรถหน้าศาลอาญา แล้วชุมนุมจนเต็มพื้นที่ถนน ใช้ไข่ไก่ มะเขือเทศ ของเหลวสีแดง สาดใส่ป้ายป้ายสำนักงานศาลยุติธรรม และป้ายศาลอาญา เสียกาย เปรอะเปื้อน

นอกจากนี้ จำเลยที่ 1-2 กับพวกรวม 50 คน ได้เดินข้ามถนน ไปบริเวณปากซอย รัชดาภิเษก 32 ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.) ใช้หนังสติ๊ก ลูกแก้ว อุปกรณ์โลหะ ประทัดยักษ์ ขว้างเข้าใส่ รวมทั้งผู้ชุมนุม ใช้ท่อนไม้ หิน ขวดโซดา ขวดแก้วใสน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีเศษผ้า ขว้างปาใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับติดตามมา4 คันได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 983,200 บาท และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีก 4 คันได้รับความเสียหาย จึงขอให้ลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย ซึ่งจำเลยทั้ง 15 คน ให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

ช่วงเช้าวันนี้ จำเลยที่ 1-15 เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความและมวลชนที่มาให้กำลังใจ

ศาลอาญาพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว ในส่วนของจำเลยที่ 1-2 นั้น วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยที่ 1-2ได้ จากการขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มภายในซอยรัชดาภิเษก 32 แต่ไม่ปรากฎว่ามีภาพถ่ายหรือพยานหลักฐานอื่นที่ระบุได้ว่าเป็นผู้ร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณหน้าป้ายศาลอาญา หรือปากซอยรัชดาภิเษก 32 พยานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควร จึงให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ 

 ส่วนจำเลยที่ 3ถึง 15 พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 3 ถึง15กับพวกผู้ชุมนุมเป็นความผิดตามฟ้อง ยกเว้นความผิดฐานไม่ขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง และฐานไม่ขออนุญาตจัดการชุมนุม เพราะไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 3 ถึง 14 เป็นผู้จัดกิจกรรมการชุมนุม ส่วนที่จำเลยที่ 3 ถึง14 นำสืบอ้างว่า เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญนั้น แม้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้รับรองเสรีภาพในการชุมนุมไว้ก็ตาม แต่จะต้องไม่กระทบสิทธิหรือเป็นการละเมิดต่อบุคคลอื่น

 เมื่อข้อเท็จจริงพังได้ว่า ในระหว่างการชุมนุมของจำเลยที่ 3 ถึง 14 กับพวกผู้ชุมนุม มีการใช้กำลังประทุษร้าย และเป็นการก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองด่าทอ ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีอันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นจึงมิใช่เป็นการชุมนุมโดยสงบตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ส่วนที่จำเลยอ้างว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น เห็นว่า การพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและการกำหนดเงื่อนไขอย่างใดในแต่ละคดีเป็นการใช้ดุลพินิจโดยอิสระขององค์คณะผู้พิพากษาตามกฎหมาย ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวฟังไม่ขึ้น


พิพากษาว่า จำเลยที่ 3 ถึง 15 มีความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธกับฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ไม่ยอมเลิกการมั่วสุม และฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ไม่ยอมเลิกการมั่วสุม อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกจำเลยที่ 3 ถึง 14 คนละ 1 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยที่ 15 จำคุก 1 ปี

ฐานร่วมกันดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี จำคุกจำเลยที่ 3 ถึง 14 คนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท จำเลยที่ 15 จำคุก 2 ปีฐานร่วมกันเดินเป็นขบวนใดๆในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับคนละ 300 บาท และฐานร่วมกันเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอยน้ำโสโครก หรือสิ่งอื่นใดลงบนถนน ปรับคนละ 3,000 บาท

รวมจำคุกจำเลยที่ 3 ถึงที่ 14 คนละ 3 ปี และปรับคนละ 33,300 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี นอกจากนี้ให้คุมประพฤติและให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ส่วนจำเลยที่ 15 นั้นทางนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกระทงละหนึ่งในสาม รวมโทษจำคุกนายชาติชาย แกดำ จำเลยที่ 15 มีกำหนด 1 ปี 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และปรับ 2,200 บาท และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
กำลังโหลดความคิดเห็น