พบเงินหมุนเวียนใน บช.ธนาคาร“นารา เครปกะเทย” หลอกขายกล่องสุ่มกว่า 300 ล้าน เจ้าตัวยังปฏิเสธเสียงแข็ง ด้านแม่รุดเยี่ยม ร้องโฮวอนให้โอกาสลูกชาย
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. ร่วมทำการสอบปากคำ นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 751/2566 ลงวันที่ 20 มี.ค. 2566 ข้อหา “โฆษณาหรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดกฎหมาย, ฉ้อโกงประชาชน, ทุจริตหรือหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
ทั้งนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังคุมตัว นายอนิวัต เดินเข้าห้องสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายอนิวัต ถึงเรื่องคดี แต่เจ้าตัวเลี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ไฟเบอร์ นารา 290 บาท สั่งซื้อได้ อยากให้ช่วยซื้อเพราะต้องขายของหาเงิน“ ซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับร้องเพลง ด่วนพิศวาส ของ ผ่องศรี วรนุช อีกด้วย
ด้าน นางอารี อ่อนละวัน อายุ 47 ปี แม่ของ นายอนิวัต ที่หลังทราบข่าวว่าลูกถูกจับกุมตัว จึงรุดเดินทางมาเฝ้าติดตามคดี ก่อนให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา ว่า อยากขอเวลา และโอกาสให้กับบุตรชายของตน ที่ผ่านมา หลังเกิดเรื่อง นายอนิวัต เองก็ไม่เคยหนีไปไหน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานขายของเพื่อหาเงินมาใช้คืนผู้เสียหาย ทรัพย์สินมีค่าทุกอย่างที่มี ก็ขายไปจนหมดแล้ว ถ้าเกิดต้องติดคุกไป ก็คงไม่มีโอกาสได้หาเงินมาใช้คืน ซึ่งตนเชื่อว่าหากให้โอกาส บุตรชายของตนสามารถหาเงินมาใช้คืนได้ พร้อมทั้งเชื่อว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น นายอนิวัต ไม่มีเจตนาฉ้อโกงอย่างแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า การจับกุมตัว นายอนิวัต ในครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งร้องทุกข์เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนซื้อกล่องสุ่ม ที่ นายอนิวัต อ้างว่าลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนสูง แต่ปรากฏว่า ไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งเอาผิดแล้วส่วนหนึ่ง แต่เชื่อว่า ยังมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้แจ้งเอาผิด เหตุเพราะยังมีความหวังและเชื่อว่าจะได้เงินกลับคืน ตอนนี้มูลค่าความเสียหายเฉพาะกลุ่มที่เข้าแจ้งความเบื้องต้นประมาณล้านกว่าบาท แต่ในส่วนความเสียหายภาพรวมทั้งหมดยังประเมินไม่ได้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายอนิวัต ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งก็เป็นสิทธิที่เจ้าตัวสามารถทำได้ หรือ จะให้การอย่างไรก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำทางพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการส่งตัวฝากขัง พร้อมกับยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนและชั้นศาล เนื่องจากคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนมาก เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีดังกล่าวจะมีบุคคลอื่นหรือบุคคลใกล้ชิด โดยเฉพาะแฟนหนุ่มของ นายอนิวัต เกี่ยวข้องหรือร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้ อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ว่า การขายกล่องสุ่ม เป็นสิ่งที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้อง หากไม่มีการขออนุญาตก็จะถือว่ามีความผิด ส่วนกรณีขายกล่องสุ่มของ นายอนิวัต นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานไปยังกรมการปกครอง เพื่อตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำตอบจากทางกรมการปกครอง
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายอนุวัต เบื้องต้นพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารเฉพาะเพียงแค่ 3 บัญชี มาถึงกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เงินเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และ มีการผ่องถ่ายไปยังที่ใดบ้าง โดยเฉพาะเงินที่ได้มาจากการหลอกขายกล่องสุ่ม เพื่อติดตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดเหล่านี้กลับคืนมา
นอกจากนี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน โดยเฉพาะการผ่องถ่ายทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดไปให้กับบุคคลใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ก็อาจมีการพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิดฐาน ฟอกเงิน เพิ่มเติม ตามมาในภายหลังอีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับ นายอนิวัต หรือ นารา เครป กระเทย นั้น ก่อนหน้าเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จับในความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จากกรณีร่วมกันผลิตและเผยแพร่สื่อโฆษณาที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อเดือน มิ.ย. 2565 และ ในเดือน ก.ย. ปีเดียว ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จับกุมอีกครั้งในคดีจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผสมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวอีกครั้งในคดีหลอกขายกล่องสุ่มดังกล่าว
