ตำรวจ ปอท.บุกรวบหนุ่มนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยชื่อดัง หัวใสแฮกโค้ดใต้ฝาเครื่องดื่มชูกำลัง นำไปแลกเงินผ่านทรูมันนี่วอลเลต 6 หมื่นครั้ง รับสารภาพ อ้างตกงาน ต้องหาเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
วันนี้ (23 มี.ค.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปอท. นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 3 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ กรุงเทพฯ 2 จุด และ นนทบุรี 1 จุด เพื่อจับกุม นายสมประสงค์ อินทรรักษ์ อายุ 29 ปี และ นายวัชนันท์ ศิริ อายุ 28 ปี สองผู้ต้องหาขบวนการแฮกเกอร์ เจาะระบบโจรกรรมโค้ดรางวัลเงินดิจิทัล ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 824/2566 และ 825/2566 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2566 ข้อหา “ร่วมกันทุจริตหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, ร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ, ร่วมกันทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกรบกวนหรือเสียหาย และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”
โดยจุดแรกเป็นห้องพักเลขที่ 47/36 ชั้น 4 ตึก 47 ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโครงการเอื้ออาทรบึงกุ่ม แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ซึ่งเป็นห้องพักของ นายสมประสงค์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายสมประสงค์ กำลังนอนพักผ่อนอยู่กับน้องชาย จึงแสดงตัวเข้าจับกุมนายสมประสงค์ พร้อมกับตรวจค้นภายในห้อง ก่อนตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สิ่งเทียมอาวุธปืนหรือ บีบีกัน 1 กระบอก ฝาเครื่องดื่มจำนวนหนึ่ง
ส่วนเป้าจุดสำคัญแห่งที่ 2 เป็นห้องพัก 281/329 ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เป็นสถานที่พักอาศัยของ นายวัชนันท์ จากการตรวจค้นพบตัวนายวัชนันท์ พักอาศัยอยู่ภายในห้องเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และ หลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ตรวจสอบ
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนจากบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ว่า มีคนร้ายแฮกระบบขโมยข้อมูลโค้ดรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มพาวเวอร์ไทเทเนียม จำนวนกว่า 300,000 ครั้ง ก่อนนำโค้ดที่ได้ไปสแกนขึ้นเงินรางวัลผ่านทรูมันนี่วอลเลต จำนวน 60,000 ครั้ง จนทางบริษัทได้รับความเสียหาย หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุ คือ นายสมประสงค์ และ นายวัชนันท์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบ นายสมประสงค์ นั้น ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จึงทำให้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบซอฟแวร์คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี
สอบสวนเบื้องต้นทั้งสอง ให้การรับสารภาพ โดย นายสมประสงค์ ยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้ที่ลงมือแฮกระบบของบริษัทผู้เสียหาย เพื่อขโมยเอาโค้ดรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มชูกำลังมาใช้สแกนแลกเงินดิจิทัลจริง ซึ่งหลังจากได้โค้ดรหัสมาแล้วก็จะให้ นายวัชนันท์ เพื่อนสนิท เป็นผู้นำไปสแกนแลกเงินรางวัล ก่อนจะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน ส่วนสาเหตุที่ทำไปก็เพื่อต้องการหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากปัจจุบันตกงานไม่มีรายได้
อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นภารกิจการตรวจค้นจับกุม ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อทำการสอบปากคำอย่างละเอียด โดยมี พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. ร่วมทำการสอบปากคำด้วยตนเอง ก่อนจะแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันนี้