รอง ผบช.น.แถลงผลงานตำรวจ 191 จับกุม 2 คดี แก๊งลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้ารวมกว่า 1.2 ล้านเม็ด ส่วนอีกคดีบุกทลายขบวนการขโมยรถชำแหละขายประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจฯ พร้อม สว.กก.สายตรวจ บก.สปพ. แถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย กลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งพื้นที่ภาคกลาง พร้อมยาบ้า 1,078,000 เม็ด รถยนต์ฮอนด้า ทะเบียน พม 3517 กทม. รถยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 2 ขต 3617 กทม. รถยนต์โตโยต้า ทะเบียน 9 กร 6539 กทม. และโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ได้ภายในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ถนนมิตรภาพ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สืบเนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะไปรับยาเสพติดตามแนวชายแดนแถบ จ.นครพนม ก่อนจะใช้เส้นทาง จ.อุบลราชธานี ลงมาพื้นที่ภาคกลางเพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้า ซึ่งกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะใช้รถยนต์ของกลางรวมขนยาเสพติดและนำทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางในการเสี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจค้นจับกุม จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แมทเอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า
คดีที่สองจับกุม นายสุริยา หรือ ยา อายุ 41 ปี นายพรพรหม หรือ ปอนด์ อายุ 27 ปี และ นายพิชัย หรือ เด้ง อายุ 27 ปี พร้อมยาบ้า 130,000 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ได้ภายในห้างสรรพสินค้าคลองหก ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องริม ถ.รังสิตนครนายก (คลองสอง) ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าจะมีการซื้อขายส่งมอบยาเสพติด โดยใช้บริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเป็นสถานที่ในการส่งมอบ สอบสวนรับว่าได้ค่าจ้างในการจำหน่ายยาเสพติดประมาณ 100,000 บาท และจะนำค่าจ้างมาแบ่งกัน ซึ่งทั้งสามเป็นกลุ่มเครือข่าย “อาร์ทต่ำเอี่ยว” เอเยนต์รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าทั้งสามรายเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย
คดีที่สาม บุกทลายขบวนการแก๊งโจรกรรมชําแหละรถยนต์ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้อู่ซ่อมรถยนต์ไม่มีเลขที่ ถนนพุทธมณฑล ซ.20 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม. เป็นสถานที่ชำแหละ โดยกลุ่มคนร้านมีพฤติกรรมกว้านหาซื้อรถยนต์หลุดจำนำ หรือรถยนต์หนีไฟแนนซ์ หรือหลอกลวงผู้ครอบครองรถยนต์ว่าจะเช่ารถยนต์แต่จริงแล้วตั้งใจเพื่อให้ได้รถยนต์มาในราคาถูกโดยใช้กลอุบายหลอกทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลายาว ทำให้ยากต่อการตรวจสอบของผู้ให้เช่า ซึ่งกว่าผู้ให้เช่าจะทราบว่ารถยนต์ถูกนำมาถอด ชิ้นส่วน และนำรถยนต์มาถอดแยกชิ้นส่วน โดยนำเครื่องยนต์ โครงรถยนต์ไปขายให้ลูกค้า ตามที่ลูกค้าต้องการ และนำโครง คัทซีไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ใกล้เคียง จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมเป็นเวลากว่า 1 เดือน พบรถยนต์ถูกนำมาถอดแยกชิ้นส่วนขายแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความไว้หลายท้องที่ ต่อมาชุดสืบสวนติดตามจนพบรถยนต์ที่มีการแจ้งหายไว้ในท้องที่ สภ.บางเสาธง จอดเติมน้ำมันภายในปั๊มบางจาก ริมถนนเอเชีย 32 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเชิญตัว นายเอก เจริญบุญดีจริง เป็นคนขับมาทำการสอบสวน ก่อนนำกำลังไปตรวจค้นที่อู่ดังกล่าวพบของกลางโครงรถกระบะ และโครงรถยนต์หลายรายการ จึงตรวจยึดไว้ทั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเลขตัวถังและประสานผู้เสียหายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป