ผบ.ตร.สั่งดำเนินเนินคดี และให้ออกจากราชการแก๊งตำรวจอุ้มล่ามสาวไทย รีดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท ถือเป็นความผิดร้ายแรง เสื่อมเสียวงการตำรวจ
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่โรงแรมพูลแมน จี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีล่ามสาวชาวไทย ถูกแก๊งตำรวจ ตม.บุกอุ้มไปรีดทรัพย์ กว่า 10 ล้านบาท ท้องที่ สน.ดินแดง ว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดที่ชัดเจน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง เสื่อมเสียวงการตำรวจ จากการสืบสวน พบว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสารวัตรสืบสวน สังกัด ตม.1 รวม 2 นาย เจ้าหน้าที่ชั้นยศประทวน 4 นาย และมีคนชี้เป้าซึ่งเป็นคนไทยร่วมขบวนการด้วย ขณะนี้ได้มีการเชิญตัวเจ้าหน้าที่บางส่วนมาสอบปากคำแล้ว
วันนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง รวบรวมหลักฐานเสนอศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอออกหมายจับนายตำรวจรวม 4 นาย ประกอบด้วย สารวัตรสังกัด ตม. 2 นาย และนายตำรวจชั้นประทวน อีก 2 นาย แล้ว ส่วนตำรวจชั้นประทวนอีก 2 นาย รวมถึงคนชี้เป้า กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับเช่นกัน
ส่วนการดำเนินการทางวินัย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีคำสั่งไล่ออกเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กระทำความผิดทั้งหมด ส่วนความผิดทางอาญาให้ดำเนินคดีโดยชัดเจน และตนยังได้พูดคุยกับผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะต้นสังกัดของผู้ก่อเหตุ มีความเห็น สอดคล้องกันว่า ผู้บังคับบัญชาในระดับผู้บังคับการและผู้กำกับการของตำรวจ ตม. ที่กระทำความผิด จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะการกระทำความผิดของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ มีการดำเนินคดีกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 107 นาย ที่เอื้อประโยชน์ในการต่อวีซ่าให้กับกลุ่มนายทุนจีน ในส่วนตัวมองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกวันนี้ มีภาคประชาชนคอยตรวจสอบ เมื่อพบการกระทำความผิดที่มีพยานหลักฐาน ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น และไม่ช่วยเหลือ
ส่วนกรณีการขยายผลแก๊งอุ้มชาวจีนที่เกิดบ่อยครั้งในช่วงสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ สน.ทองหล่อ, สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี และล่าสุดที่ สน.ดินแดง จากการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกัน ส่วนชาวจีนที่ถูกอุ้ม จะต้องมาสืบสวนขยายผลว่าได้ทำธุรกิจ หรือกระทำผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมาย ก็ไม่มีสิทธิที่จะใช้ช่องโหว่ดังกล่าวไปจับกุมบุกอุ้มเพื่อขู่กรรโชกรีดทรัพย์โดยผิดกฎหมาย