ฝ่ายสืบสวน บก.น.2 พร้อมตำรวจสายไหม จนท.พิสูจน์หลักฐาน จนท.อีโอดี และสำนักงานเขตสายไหม ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้าน“สารวัตรกานต์” ค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกรอบ เพื่อนบ้านเผยเคยเห็นพูดคนเดียว เดินไปมาแต่ไม่สร้างความเดือดร้อน วันเกิดเหตุไม่ได้เอาปืนไล่ยิงใคร แต่เริ่มเครียดและเกิดเหตุรุนแรงเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่มา
วันนี้ (18 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม หน่วยตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) และสำนักงานเขตสายไหม ร่วมกันนำกำลังค้นหาและรวบรวมปลอกกับหัวกระสุนเพื่อตรวจหาวัตถุพยานเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ สารวัตรฝ่ายปกครอง ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล คลุ้มคลั่งกราดยิง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมตัวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเจ้าหน้าที่นำรถกระเช้าของสำนักงานเขต และเครื่องตรวจโลหะกระจายกำลังกันค้นหารอบบริเวณที่พัก บ่อเกรอะ และคลอง ซึ่งกลิ่นแก๊สน้ำตายังคงคละคลุ้งอยู่ในตัวบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่รวมถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ต่างไอจามกันอยู่ตลอด
พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า การค้นหาพยานหลักฐานวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตรวจโลหะค้นหารอบบ้านในรัศมีประมาณ 20 เมตร โดยเฉพาะหลังบ้านที่เป็นป่าและบ่อน้ำ และใช้รถเครนของสำนักงานเขตสายไหม มาร่วมตรวจวัดแนววิถีกระสุนมุมสูงที่อยู่บนบ้าน และที่ทะลุกำแพงบ้านออกมาด้านนอก รวมทั้งตรวจสอบหัวกระสุนที่อาจฝังอยู่ในกำแพง และบ่อเกรอะเพื่อหาวัตถุ ที่อาจถูกทิ้งลงในโถชักโครก
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เคยเห็น สารวัตรกานต์ ออกมาเดินไปเดินมาและพูดคนเดียวอยู่ที่ป่าหลังบ้าน แต่ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร แต่จะมีอาการพูดเสียงดังจากการดื่มสุรา และเสพกัญชา ซึ่งในวันเกิดเหตุ สารวัตรกานต์ ไม่ได้เอาปืนมาไล่ยิงชาวบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ก็เริ่มมีอาการเครียด และเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น
เจ้าหน้าที่ได้รื้อฝ้าเพดานในห้องพักชั้น 2 และเปิดฝาบ่อเกรอะเพื่อค้นหาวัตถุพยาน ซึ่งภายหลังการค้นหาร่วม 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ยังไม่พบปลอกกระสุนเพิ่มเติม แต่พบหัวกระสุนอีก 3 หัวในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งยังไม่ทราบชนิด จึงต้องนำไปตรวจสอบต่อไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำแผ่นไม้ไปตอกปิดประตูห้องพักสารวัตรกานต์เพื่อไม่ให้ผู้ใดเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุอีก
