โฆษกศาลยุติธรรม แจงตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเพิกถอนหมายจับ ส.ว.คนดัง ก่อนที่ “รังสิมันต์ โรม” จะยื่นหนังสือ ถ้าพบเป็นดุลพินิจปกติก็ยุติ แต่หากส่อมีมูลเรื่องวินัยก็สอบข้อเท็จจริง ส่งให้ ปธ.ศาลฎีกา
วันนี้ (11 มี.ค.) นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีหนังสือชี้แจงของ ตำรวจ สน.พญาไท ประเด็นร้องขอออกหมายจับ ส.ว.คนดัง ที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียล ว่า ตนเองเห็นหนังสือที่ส่งต่อผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แล้ว และเข้าใจว่า มีการรายงานให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ทราบ แต่ยังไม่มีมติ หรือรายงานอะไรมาเป็นพิเศษ
ส่วนหนังสือชี้แจงที่พาดพิงผู้บริหารของศาลอาญา นั้น นายสรวิศ กล่าวว่า เข้าใจว่า ท่านที่เกี่ยวข้องกับการเรื่องดังกล่าว มีการรายงานข้อเท็จจริงไปบ้างแล้ว และมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะมายื่นหนังสือให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน แต่ส่วนตัวยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องมติ อะไรออกมาว่าจะเป็นยังไงต่อ ส่วนที่ประชุม ก.ต. ในครั้งหน้า ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการพูดคุยในเรื่องนี้หรือไม่
โฆษกศาลยุติธรรม ยังกล่าวถึงขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนต่างๆ เข้ามา ว่า จะมีการรายงานข้อเท็จจริงเป็นลำดับชั้น ตั้งแต่ต้นเรื่อง คือ ศาลอาญา ส่งเรื่องเข้ามาที่ สำนักงานศาลยุติธรรม จากนั้นสำนัก ก.ต. ก็จะดูข้อเท็จจริงที่ได้รับมา เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ว่า ลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ถ้าเห็นว่า เป็นเรื่องของการใช้ดุลพินิจการออกคำสั่งตามปกติที่สามารถทำได้ ก็อาจจะยุติเรื่องไป แต่สมมติว่าเข้าข่ายของอาจจะมีมูลเรื่องของผิดวินัย ก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง แล้วเสนอต่อประธานศาลฎีกา ว่าควรจะยุติเรื่องหรือ ควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม เรื่องร้องเรียนต่างๆ จะยังไม่ต้องเข้าที่ประชุม ก.ต. โดยตรง เพราะปกติ ที่ประชุม ก.ต. จะเป็นชั้นสุดท้าย เหากมีการสอบทางวินัยแล้วมีความเห็นว่าควรจะลงโทษ จึงจะเข้าที่ประชุม ก.ต. แต่อาจจะมีบางกรณีหรือบางเรื่อง ที่ ก.ต. บางท่านหยิบยกขึ้นมาสอบถาม ข้อมูลจากที่ประชุม ก.ต.ก็เป็นไปได้ แต่ปกติเรื่องลักษณะนี้ ยังไม่ใช่กระบวนการที่จะเสนอ เข้า ก.ต.อย่างเป็นทางการ