xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์”ยื่นหนังสือ อสส.-ประธาน ก.อ. สอบวินัยอัยการสั่งไม่ฟ้อง "ลูก-เมีย"เสี่ยกำพล คดีค้ามนุษย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายชูวิทย์ กมลวิษฎ์
“ชูวิทย์”ยื่นหนังสือถึง อสส.-ประธาน ก.อ. สอบวินัยอัยการสั่งไม่ฟ้อง "ลูก-เมีย"เสี่ยกำพลคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครท


เมื่อเวลา 13.43 น.วันนี้ (14 ก.พ.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายชูวิทย์ กมลวิษฎ์ อดีตส.ส.และเจ้าของอาบอบนวดชื่อดัง เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของพนักงานอัยการระดับอธิบดีอัยการ ที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายธนพล และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ลูกและภรรยาของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ในคดีค้ามนุษย์และคดีที่เกี่ยวข้องคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครท

นายชูวิทย์กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากการบุกช่วยเด็กสาว อายุ15 ปี ที่ถูกบังคับค้าประเวณีในมาเลเซีย การสืบสวนพบเกี่ยวข้องกับ อาบ อบ นวด วิคตอเรียซีเครทในไทย ต่อมามีการบุกตรวจค้นและพบการกระทำความผิดเข้าข่ายค้าประเวณีและค้ามนุษย์ โดยขณะนั้นมีการพิจารณาคดีเเยกเป็น 2 สำนวนสำนวนเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักรมีอัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจสอบสวน คดีที่2 มีการดำเนินคดีกับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์กับภรรยาเเละลูกต่อมาศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องในสำนวนคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นคดีดังกล่าวมีการพิพากษาเกินคำขอ ไปสินิจฉัยในส่วนพฤติการณ์ของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับภรรยาเเละลูก ว่าไม่มีความผิดฐานค้ามนุษย์ จึงเป็นเหตุให้อธิบดีอัยการที่รับผิดชอบสำนวนนำคำวินิจฉัยของคำพิพากษาดังกล่าวมาเป็นเหตุในการสั่งไม่ฟ้องนายธนพล และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ลูกและภรรยาของนายกำพล คงเหลือเเต่นายกำพลคนเดียว ซึ่งเมื่อมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องสำนวนจะถูกส่งไปยังดีเอสไอเพื่อทำความเห็นเเจ้งซึ่งอธิบดีดีเอสไอในยุคดังกล่าวก็เห็นตามด้วย ไม่เเย้งความเห็นของอัยการคดีสิ้นสุดด้วยการสั่งไม่ฟ้อง เเต่ในส่วนนายกำพลที่ยังสั่งฟ้องอยู่เพราะยังไม่มี อัยการสูงสุดคนไหนกล้าสั่งไม่ฟ้อง เเต่ที่ตนต้องมาร้องเพราะกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำเเละกลางน้ำมันบิดเบี้ยว

ทั้งที่ต่อมาในคดีนอกราชฯที่ศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้องนั้น ต่อมาศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นศาลสูงมีคำวินิจฉัยว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในส่วนของครอบครัวนายกำพลเป็นคำพิพากษาเกินคำขอ พิพากษากลับเเละลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนอกราชอาณาจักรดังกล่าว โดยที่อัยการกลับนำเเค่คำพิพากษาของศาลชั้นต้นมาสั่งไม่ฟ้องลูกกับเมียนายกำพล จนต้องมีการถอนหมายจับเเละทำให้ลูกเเละภรรยาของบุคคลดังกล่าวกลับเข้าในในธุรกิจอาบอบนวดที่มีการค้ามนุษย์อีกครั้ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ สารวัตรซัวด้วยโดยมีลักษณะเป็นหุ้นส่วนกัน ซึ่งความผิดที่สั่งไม่ฟ้องในคดีค้ามนุษย์นั้นเป็น ความผิดมูลฐานของข้อหาฟอกเงินซึ่งจะส่งผลต่อการยึดทรัพย์

โดยในวันนี้นำเอกสารหลักฐานโดยเฉพาะคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มายื่นต่อ อัยการสูงสุด ประธาน ก.อ. เเละ ก.อ.ทุกคนเพื่อพิจารณาตรวจสอบการกระทำของอธิบอดีอัยการคนดังกล่าวรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่าได้กระทำความผิดต่อหน้าที่หรือไม่ รวมถึงขอส่งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เพื่อเป็นพยานหลักฐานใหม่ในการนำมาประกอบพิจารณารื้อฟื้นการสั่งคดีที่สั่งไม่ฟ้องเมียเเละลูกนายกำพล

ขณะที่นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน พร้อมเปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นประมาณ 4-5 ปี มาแล้ว โดยภายหลังรับเรื่องจะเรียนอัยการสูงสุดเพื่อมีคำสั่งโดยตนรับปากนายชูวิทย์ว่าจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าหนังสือร้องเรียนจะถึงมือ อสส.,ประธาน ก.อ.เเละ ก.อ.ทุกคน ซึ่งในคดีนอกราชอาณาจักร ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องก็เป็นอัยการเองที่ยื่นอุทธรณ์จนศาลอุทธรณ์์มีคำพิพากษาลงโทษ
กำลังโหลดความคิดเห็น