xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งแก้ฟ้อง “รัชฎา” อดีตอธิบดีอุทยานยื่นฟ้อง ผู้การ ปปป.กับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบล่อลวงจับกุมเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ทนายความของนายรัชฎาให้ข้อมูลสื่อมวลชน
ศาลอาญาคดีทุจริตฯสั่งเเก้ฟ้อง “รัชฎา” อดีตอธิบดีอุทยาน ยื่นฟ้อง ผู้การ ปปป.กับพวก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ล่อลวงจับกุมเท็จ พร้อมนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องใหม่วันที่ 30 มี.ค.นี้

วันนี้ (14 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและะประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำ อท.23/2566 ที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

จากกรณี จำเลยทั้งหมดมีการวางแผนล่อลวงให้รับเงิน และยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันนี้ ศาลมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องในประเด็นดังนี้ 1.1 เนื่องจากโจทก์มีคำขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 79 ซึ่งเป็นเพียงบทกำหนดโทษ แต่ในคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายให้ชัดเจนถึงพฤติการณ์ที่ กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 7 กระทำการใดอันเป็นความผิดตามมาตราใดที่จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 79 ทั้งบทกำหนดโทษตามมาตรา 79 ดังกล่าวเป็นบทกำหนดโทษของ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ที่ทำการฝ่าฝืน พระราชบัญญัตินี้ ดังนั้น โจทก์ต้องบรรยายให้ชัดเจนว่าจำเลยทั้ง 7 เป็น “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ตาม กฎหมาย กฎ ระเบียบหรือคำสั่งใด อย่างไร และมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ อย่างไร และสิ่งใดที่ถือว่าเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล” ตามพระราชบัญญัตินี้อย่างไร และจำเลยทั้งเจ็ดกระทำการอย่างใดอันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัตินี้ ที่จะทำให้จำเลยทั้งเจ็ดต้องรับผิดตามมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.นี้

1.2 เนื่องจากโจทก์มีคำขอให้ลงโทษตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 25, 28, 33 โดยโจทก์แถลงว่า เป็นเพียงการอ้างถึงสิทธิของโจทก์ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ประสงค์ขอให้ลงโทษ จึงให้แก้ไขคำขอท้ายฟ้องโดยตัดข้อความเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ 2560 ออก

2. ให้โจทก์มาแถลงข้อเท็จจริงและชี้ช่องพยานหลักฐานด้วยตนเองในวันที่ 23 ก.พ. 66 เวลา 09.30 น. ในประเด็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 164, 179, 200, 210, 310, 364, 365 เกี่ยวกับพฤติการณ์ทั้งก่อนและหลังจากที่โจทก์ถูกจับกุมเพิ่มเติมเนื่องจาก โจทก์ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วยตนเอง

3. ศาลจะมีหนังสือไปถึง “กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” พร้อมแนบสำเนาบันทึกการจับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ฉบับลงวันที่ 27 ธ.ค. 65 เพื่อให้ชี้แจงข้อมูลและจัดส่งเอกสาร

3.1 มูลเหตุและรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ทั้งก่อนและในขณะเข้าตรวจค้นและ จับกุม นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยามแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 65 ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามสำเนาบันทึกการจับกุม

3.2 การตรวจค้นและจับกุมนายรัชฎา ตามข้อ 1 กระทำโดยมีหมาย ค้นและหมายจับหรือไม่ อย่างไร

3.3 มีการบันทึกภาพและเสียงขณะตรวจค้นและจับกุมนายรัชฎา หรือไม่ หากมี ได้มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ และผู้ใดเป็นผู้เผยแพร่ และเป็นการกระทำที่ขัดต่อประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 29 ความลับ ข้อ 1 หรือไม่ อย่างไร

4. นอกจากการจับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด 98,000 บาท ตามสำเนาบันทึกการจับกุมที่แนบมาพร้อมนี้ ได้มีการตรวจยึดของกลางอื่นๆ จากโจทก์ในวันดังกล่าว ได้อีกหรือไม่ อย่างไร

ให้เลื่อนไปนัดสอบข้อเท็จจริงจากโจทก์ในวันที่ 23 ก.พ. 66 เวลา 09.30 น.และให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 30 มี.ค.เวลา 09.30 น.

ด้าน นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของนายรัชฎา เปิดเผยว่า เตรียมแก้คำฟ้องตามคำสั่งของศาลและจะยื่นฟ้องใหม่ให้ทันตามกรอบเวลาที่ศาลกำหนด และนายรัชฎา จะมาไต่สวนที่ศาลด้วยตัวเองในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมยังยืนยันว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ต้องมาฟ้องให้ศาลดำเนินคดีตามข้อหาดังกล่าว

นายวราชันย์ ยังบอกถึงสาเหตุของการเข้าจับกุมของตำรวจ และนายชัยวัฒน์ ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากการร้องให้ตรวจสอบกรณีที่นายชัยวัฒน์ เมื่อสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยเมื่อปี 2555 มีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อนำไปทำโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 4,200 ไร่ ภายในอุทบานแห่งชาติแก่งกระจาน มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท แต่ไม่มีการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว จึงร้อง ปปท.ตรวจสอบ ซึ่งทางปปท.ได้ส่งเรื่องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบ กระทรวงจึงดำเนินการต่อ แต่เมื่อนายชัยวัฒน์เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ คดีได้ส่งมาถึงสำนักงาน ป.ป.ช. แล้วและอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาชี้มูลความผิด ซึ่งกำลังจะหมดอายุความในเดือนมีนาคม 2566

นายวราชันย์ ยังบอกว่า โครงการนี้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเป็น 3 งวด โดยงวดแรกได้เบิกงบไปในวันที่ 29 มีนาคม 2556 แต่โครงการดังกล่าวไม่มีการปลูกป่าจริง ทำให้กระทรวงได้รับความเสียหาย ซึ่งตัวแทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะไปแจ้งความร้องทุกข์กับพรุกงานสอบสวนท้องที่รับผิดชอบในจังหวัดเพชรบุรีต่อไป ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างรอการลงนามจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเชื่อว่า เหตุการณ์นี้เป็นต้นเหตุทำให้นายชัยวัฒน์ ไปร่วมกับตำรวจ บก.ปปป. วางแผนล่อซื้อให้เข้าจับนายรัชฎา จนทำให้เกิดความเสียหาย

นายวราชันย์ ยังเตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพิ่มเติมอีก 1 สำนวน เนื่องจากเข้าข่ายความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นกัน ส่วนสำนวนคดีนี้เป็นการฟ้องนายชัยวัฒน์ และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนกรณีที่นายรัชฎา อ้างว่า เงินที่ได้รับจากหน่วยงานในสังกัดเป็นการนำไปสร้างพระบรมราชนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 จำลอง เพื่อหาเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือข้าราชการสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ นั้น นายวราชันย์ ยืนยันว่า ข้อมูลในส่วนดังกล่าวยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเป็นข้อมูลในการใช้ต่อสู้ทางคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น