เปิดคลิปวินาทีหนุ่มขับเก๋งชนแท่งปูน รถหมุนกลางอากาศฟาดเสาไฟทำรถจอดข้างทางพังยับ 1 คัน สลดคนขับตายคาที่ 1 เจ็บอีก 4 ราย พยานเผยรถคันเกิดเหตุวิ่งมาด้วยความเร็วก่อนเกิดอุบัติเหตุ ซ้ำเพื่อนคนขับอกไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
จากกรณีเมื่อเวลา 23.46 น. วันที่ 11 ก.พ. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์เก๋ง แบบ 5 ประตู เสียหลักพลิกคว่ำ ชนบริเวณจุดวางท่อข้างทาง มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนชัยพฤกษ์ มุ่งหน้าบางบัวทอง ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งแบบ 5 ประตู ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 8 กฉ 974 กทม. พลิกคว่ำ ชนท่อปูนขนาดใหญ่ สภาพรถพังยับทั้งคัน พบผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายยุทธภูมิ แจ้งประเสริฐ อายุ 29 ปี สภาพศพคว่ำหน้าอยู่บริเวณเบาะคนขับ พบบาดแผลคอหัก และมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลจำนวน 2 ราย โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์จำนวน 1 ราย โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 จำนวน 1 ราย รวมเป็น 4 ราย ใกล้กันพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒต 3278 กทม. สภาพด้านหน้ารถพังยับ
น.ส.สมัย คำภา อายุ 60 ปี เจ้าของรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒต 3278 กทม. กล่าวว่า ตนทำรับเหมาก่อสร้างจอดรถไว้ตรงข้างถนน เจ้านายเจ้าของบ้านให้ตนมานอนเฝ้าร้าน ตนได้ยินเสียงดังมากเพราะเพิ่งนอนไปได้แค่ 10 นาที พอออกมาก็เห็นรถคันที่พลิกคว่ำมีควันขึ้นเต็มไปหมด และรถตนถูกชนด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย ตนเสียใจ รถตนมีประกันแค่ชั้น 2 และตอนนี้ยังหาเอกสารไม่เจอคงต้องโทรไปถามน้องสาวแต่มันดึกมากแล้วเขาก็นอนแล้ว
นายวันชัย สำราญเลิศวิไล อายุ 61 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนหลับอยู่มาทำงานแถวนี้ได้ 3-4 วัน มานอนเฝ้าของ ตนเห็นรถตัวเองแล้วเข่าอ่อน ตนจอดรถไว้เฉยๆทำไมเป็นแบบนี้ ตอนแรกไม่เห็นรถคู่กรณี จนกระทั่งหันไปเจอรถคู่กรณีกระเด็นข้ามแท่งปูนไป ตนจอดรถขนาดกับท่อปูนอยู่ ไม่ได้จอดขวาง ทุกทีพอร้านอาหารข้างๆ เลิก ตนจะมาขยับรถ หลังเกิดเหตุตนโทรเรียกเมืองไทยประกันภัย แต่ทางศูนย์บอกให้ตำรวจเอารถไปโรงพักเลย ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มาที่เกิดเหตุ แล้วตนจะทำประกันไปเพื่ออะไร ตนทำประกันประเภท 2 ก็ควรจะต้องมาดูแลเพราะมีคนเสียชีวิตด้วย โทรเรียกหลายครั้งรอเกือบชั่วโมง ทุกคนต้องรอประกันเพราะมันเคลื่อนย้ายศพไม่ได้ ตนต้องไปโรงพัก ประกันก็ต้องมาดูค่าเสียหายเพราะรถตนจอดอยู่เฉยๆ ต้องมารับผิดชอบทรัพย์สินของตน
ตนไม่เข้าใจเรื่องประกันประเภท 2 มันก็เงินเหมือนกัน ตนไม่ได้อยากจะทำประเภท 2 แต่มันติดรถมาตั้งแต่ตอนซื้อแล้ว ตนอยากทำประเภท 1 รอบหน้าตนจะเปลี่ยนประกันเพราะเสียความรู้สึกอยากเปลี่ยนบริษัทไปทำประกันชั้น 1 ด้วย แจ้งปุ๊บต้องมาเพราะมีเครือข่ายในทุกจังหวัด ทุกที่ อยากให้ดูแลลูกค้าประเภท 2 บ้าง อย่าเอาแต่เงินเยอะๆ รถตนเสียหายพังแหลกเลย ซ่อมเป็นแสน ตนจะดูว่าจะรับผิดชอบยังไง เพราะตนต้องใช้รถทำงานทุกวันตอนนี้ก็ไม่มีรถใช้เลย เดือดร้อนมากๆ
ด้านน.ส.กชนิภา ปิดตานัง อายุ 33 ปี เจ้าของร้านจิ้มจุ่ม ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนขายอาหารอยู่กำลังจะเดินไปเก็บป้ายร้าน เห็นรถเก๋งชนกับท่อข้างคลอง และมาชนรถกระบะ ก่อนจะลอยขึ้นแท่งปูน และชนเสาไฟฟ้า เขามาเร็วมาก มีควันมาเต็มเลย ตนเห็นตั้งแต่ตอนชนข้างคลอง มีคนวิ่งไปช่วยผู้ชาย 4 คนในรถออกมาได้ แต่คนขับติดอยู่ภายในรถ ตอนแรกมีไฟลุกขึ้นมาก่อนพวกพี่ๆ กู้ภัยจะไปเอาที่ฉีดดับเพลิงมาดับไฟ คนที่ติดอยู่ในรถเพื่อนที่มาด้วยบอกว่าเป็นคนขับ แต่เขาไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ตนเห็นเหตุการณ์และกลัวมากเพราะลูกสาวนั่งอยู่ในร้าน เลยรีบมาพาลูกวิ่งออกจากร้าน ถ้าไม่ติดแท่งปูนคงกระเด็นมาถึงร้านตน รถมันชนเสาไฟฟ้าจนเอียง ตนเพิ่งมาอยู่ตรงนี้ได้ 4 เดือน เพิ่งมีอุบัติเหตุครั้งนี้ครั้งแรก แต่ตำรวจบอกก่อนหน้านี้เคยมีผู้หญิงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตรงนี้
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าร้านส้มตำจับภาพนาทีชีวิตเวลาประมาณ 23.46 น.วันที่ 11 ก.พ. 66 รถยนต์เก๋งแบบ 5 ประตู ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 8 กฉ 974 กทม. ขับมาด้วยความเร็วเกิดประกายไฟก่อนจะเสียหลักพุ่งชนแท่งปูนข้างทางรถลอยตีลังกาไปชนกับเสาไฟฟ้าเกือบหักทำให้สภาพรถพังยับทั้งคันมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ฝั่งคนขับ1รายเจ็บ4ราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวงได้เข้าซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่ชำรุดจากอุบัติเหตุดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเย็นวันนี้
