xs
xsm
sm
md
lg

บช.น.เร่งประสานสอบดาราสาวไต้หวัน ไม่พบหลักฐานตำรวจรีดเงิน ส่งกู้ภาพกล้องติดตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา, พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก, พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ.
MGR Online - โฆษก บช.น.ยัน ไม่พบหลักฐานตำรวจตั้งด่านรีดไถเงินกลุ่มดาราสาวไต้หวัน ทั้งหมดบินออกนอกประเทศแล้ว ประสานกระทรวงการต่างประเทศสอบถามข้อมูล รวบรวมภาพกล้องวงจรปิดทุกจุด ส่ง พฐ.ตรวจสอบ กู้ภาพจากกล้องติดตัวตำรวจ คาดรู้ผลสัปดาห์หน้า ผบ.ตร.และ ผบช.น.ลั่นไม่ปกป้องผู้กระทำผิด

วันนี้ (29 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.พร้อม พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง แถลงข่าวกรณีดาราสาวและเน็ตไอดอลชาวไต้หวัน อ้าวว่า ถูกตำรวจตั้งด่านตรวจแล้วรีดไถเงิน 27,000 บาท ขณะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้ทำการตรวจสอบพยานหลักฐานในหลายส่วน เบื้องต้นพบว่าวันเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาที่ด่านจริง แต่ไม่มีหลักฐาน ยืนยันว่า ตำรวจเรียกรับผลประโยชน์ ผบก.น.1 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตำรวจประจำด่านตรวจยืนยันว่า ไม่ได้เรียกรับ ขณะนี้ได้รวบรวมภาพกล้องวงจรปิดทั้งในโรงแรมที่พัก สถานบันเทิงย่านมักกะสัน ด่านตรวจ กล้องหน้ารถแท็กซี่แกร็บที่โดยสารจากสถานบันเทิงมาถึงด่าน และกล้องติดตัวตำรวจส่งให้ กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบ และรอผลว่ากล้องตำรวจสามารถกู้ข้อมูลได้หรือไม่ เนื่องจากดาราสาวโพสต์หลังเกิดเหตุ 20 วัน เร่งรัดให้ทราบผลภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับกล้องหน้ารถแกร็บไม่สามารถกู้ย้อนหลังถึงวันเกิดเหตุได้ ส่วนกล้องที่เกิดเหตุยังไม่ปรากฏภาพชัดเจนว่ามีการเรียกรับ หรือพาไปที่ลับตาคนตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ตำรวจมีตอนนี้มีหลายส่วนไม่สอดคล้องกับคำกล่าวอ้าง ประเด็นดาราสาวอ้างว่าถูกตำรวจยัดบุหรี่ไฟฟ้าใส่มือนั้น ไม่มีข้อมูลตรงนี้ ได้สั่งการให้คณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ตามกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในไทยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักทั้งหมด หากพบว่า ตำรวจมีความผิดจริงจะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 5 และ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ผบ.ตร.มอบหมาย ผบก.สส.บช.น.เร่งประสานกองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อประสานกระทรวงการต่างประเทศ ในการประสานและทำหนังสือสอบถามผู้เสียหายและพยานเพื่อทราบรายละเอียด หรือยืนยันการกระทำผิดรวมทั้งตรวจสอบว่า ได้ร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่

“ที่ผ่านมา มีตำรวจกระทำผิดถูกดำเนินคดี ให้ออกจากราชการ เรามีตำรวจทั้งหมด 2 แสนกว่าคน อาจจะมีผู้ทำผิดกฎหมายบ้าง ในส่วน บช.น.ดำเนินคดีกับตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า จะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะคดีนี้ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ประเทศและหน่วยงาน ผบ.ตร.และ ผบช.น.ให้ดำเนินการโดยไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน” น.2 กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง สอบปากคำพยานไปแล้ว 6-7 ปาก ประกอบด้วย ตำรวจ แกร็บ แท็กซี่ที่โดยสารจากด่านไปถึงที่พัก และสถานบันเทิงมีบางประเด็นไม่ชัดเจนชุดคลี่คลายจะหารืออีกครั้ง จะมีการส่งตำรวจไทยไปบันทึกคำให้การถึงไต้หวัน เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนมากยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น