ชายคนขับแกร็บ เข้าพบ ผบก.น.1 ให้ปากคำกรณีดาราสาวชาวไต้หวันถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งด่านรีดเงิน
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีดาราสาวชาวไต้หวันอ้างถูกตำรวจตั้งด่านรีดทรัพย์ 27,000 บาท โดยประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง
โดยภายหลังประชุมเสร็จสิ้น เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อัฏธพร เปิดเผยว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เร่งรัดทำความจริงให้ปรากฏ แต่จะต้องอยู่บนหลักการของนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากพยานแวดล้อมด้วย ซึ่งคาดว่า ไม่เกิน 1-2 วัน ข้อเท็จจริงจะกระจ่าง โดยขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้แก่ กล้องวงจรปิด นำมาเชื่อมโยงข้อมูลกันกับข้อมูลคำบอกเล่าจากพยาน ซึ่งดำเนินการไปได้กว่าร้อยละ 80 แล้ว
ในส่วนของพยานแวดล้อม คือ รถสาธารณะ จะมี 2 ส่วน คือ รถแกร็บมาสด้า ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้เรียกตัวคนขับมาให้ข้อมูลแล้ว อีกส่วนคือ คนขับแท็กซี่ ที่รับดาราสาวออกจากจุดเกิดเหตุไป ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามเชิญตัวมาให้ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลมาเชื่อมโยงกันกับข้อมูลที่ได้จากตำรวจในจุดเกิดเหตุด้วย
สำหรับตัวของดาราสาวคนดังกล่าว เป็นการประสานงานติดต่อโดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีการส่งต่อข้อมูลมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เมื่อข้อมูลสมบูรณ์ ก็จะแถลงข่าวให้ชัดเจนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันหรือไม่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการเรียกรับเงิน พล.ต.ต.อัฏธพร ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และเมื่อถามต่อว่า คดีนี้จะพลิกหรือไม่ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ให้รอความคืบหน้า ตำรวจกำลังเร่งหาพยานหลักฐาน วันนี้ค่ำๆ อาจจะชัดเจนขี้น
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา ชายขับรถมาสด้า 2 สีแดง ซึ่งปรากฏในคลิปกล้องวงจรปิดที่รับดาราสาวไต้หวัน ได้เข้าพบ พล.ต.ต.อัฏธพร เพื่อให้ปากคำกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวมีสีหน้าที่ค่อนข้างเครียด และไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ
ด้าน พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่า หลังจากคนขับได้รับการเรียกผ่านระบบแอปพลิเคชั่นเอกชน จึงเข้าไปรับหญิงคนดังกล่าวที่บริเวณหน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในย่าน RCA จากนั้นได้ขับรถมาตามเส้นทาง จนกระทั่งเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก และผ่านมาที่หน้าด่านจุดตรวจจุดสกัดของ สน.ห้วยขวาง ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตจีน ตลอดทางที่หญิงสาวคนดังกล่าวนั่งรถมา ลักษณะมีอาการมึนเมามาก และพูดคุยเสียงดังมาตลอดทาง กระทั่งมาถึงที่ด่าน ตำรวจขอตรวจตามปกติ และพูดจาด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่หญิงสาวคนดังกล่าวมีอาการมึนเมา พูดคุยเสียงดัง ตำรวจจึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและวีซ่า คาดว่า เกิดการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน จึงเชิญหญิงสาวลงไปพูดคุยบนถนน ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยกันบนทางเท้า ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไร แต่ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่บริเวณหน้าด่านตรวจ ต้องจอดรออยู่บนรถเป็นเวลานานมาก เกือบ 1 ชั่วโมง กระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าวมาจ่ายเงินค่าบริการ และให้ขับรถออกจากด่านไปก่อน
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังต้องรอข้อมูลรายงานการสอบปากคำอย่างละเอียดจากผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง อีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจได้ประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดหลายหน่วยงานแล้ว โดยตรวจสอบภาพวงจรปิดจากกล้องของ กทม. ด้านหน้าสถานทูตจีน และด้านหลังจากบริเวณสะพานลอยปากซอยรัชดาภิเษก 3 เป็นภาพระยะไกล ขณะนี้ได้ทำหนังสือขอภาพกล้องวงจรปิดจากสถานเอกอัครราชทูตจีนเพิ่มเติม ตอนนี้อยู่ระหว่างรอการติดต่อกลับ