ตำรวจ 191 จับกุม “บังมัส” หัวหน้าเครือข่ายยาเสพติด พร้อมพวกอีก 4 คน นำยาส่งพัสดุเอกชนให้ลูกค้า ยึดไอซ์ 5.5 กก. ยาบ้าอีก 2 แสนเม็ด
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจฯ บก.สปพ.แถลงชุด ฉก.งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ สืบสวนขยายผลจับกุมนายถาวร หรือ วร หยองบางไทร อายุ 44 ปี นายเปเล่ หรือ เล่ แสงวิรุณ อายุ 47 ปี นางสาวสุพรรณรี หรือ ส้ม ดวงระหว้า อายุ 40 ปี นายวัลลภ หรือ บังมัส โบบทอง อายุ 37 ปี และ นายสิงห์ณรงค์ หรือ สิงห์ แก้วจำรัส อายุ 56 ปี ได้ภายในร้านส่งพัสดุแห่งหนึ่งในแขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พร้อมของกลาง ยาไอซ์ ประมาณ 5.5 กิโลกรัม ยาบ้า ประมาณ 200,000 เม็ด อาวุธปืน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และรถยนต์ตู้ 1 คัน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการเงินสด 100,000 บาท รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ 4 ถูกเพิ่มข้อหากระทำผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
การจับกุมครั้งนี้สิบเนื่องจากมีการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติด นายวัลลภ จนทราบว่า จะมีการนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าโดยการส่งพัสดุเอกชน จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมพบนายถาวร นายเปเล่ น.ส.สุพรรณรี ใช้รถยนต์ตู้ของกลาง บรรทุกยาเสพติดซึ่งอยู่ในกล่องพัสดุ 4 กล่อง กำลังนำไปส่งที่ร้านส่งพัสดุแห่งหนึ่ง แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. โดยพัสดุระบุนำส่งปลายทางไปยังจังหวัดภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งสาม พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกล่างดังกล่าว
จากนั้นขยายผลตรวจค้น บ้านพักใน ซ.ประเสริฐมนูกิจ 42 ถ.ประเสริฐมนูกิจ พบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านอยู่จำนวนหนึ่ง และจับกุมนายวัลภล หัวหน้าเครือข่าย พร้อมอาวุธปืนสั้น 3 กระบอก และนายสิงห์ณรงค์ เจ้าของบ้าน
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ไปรับยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้าน แล้วนำมาบรรจุลงกล่องพัสดุ และกำลังจะนำส่งให้กับลูกค้าผ่านทางบริษัทส่งพัสดุเอกชน โดยลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจฯ บก.สปพ.แถลงชุด ฉก.งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ สืบสวนขยายผลจับกุมนายถาวร หรือ วร หยองบางไทร อายุ 44 ปี นายเปเล่ หรือ เล่ แสงวิรุณ อายุ 47 ปี นางสาวสุพรรณรี หรือ ส้ม ดวงระหว้า อายุ 40 ปี นายวัลลภ หรือ บังมัส โบบทอง อายุ 37 ปี และ นายสิงห์ณรงค์ หรือ สิงห์ แก้วจำรัส อายุ 56 ปี ได้ภายในร้านส่งพัสดุแห่งหนึ่งในแขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พร้อมของกลาง ยาไอซ์ ประมาณ 5.5 กิโลกรัม ยาบ้า ประมาณ 200,000 เม็ด อาวุธปืน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และรถยนต์ตู้ 1 คัน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการเงินสด 100,000 บาท รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ 4 ถูกเพิ่มข้อหากระทำผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
การจับกุมครั้งนี้สิบเนื่องจากมีการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติด นายวัลลภ จนทราบว่า จะมีการนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าโดยการส่งพัสดุเอกชน จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมพบนายถาวร นายเปเล่ น.ส.สุพรรณรี ใช้รถยนต์ตู้ของกลาง บรรทุกยาเสพติดซึ่งอยู่ในกล่องพัสดุ 4 กล่อง กำลังนำไปส่งที่ร้านส่งพัสดุแห่งหนึ่ง แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. โดยพัสดุระบุนำส่งปลายทางไปยังจังหวัดภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งสาม พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกล่างดังกล่าว
จากนั้นขยายผลตรวจค้น บ้านพักใน ซ.ประเสริฐมนูกิจ 42 ถ.ประเสริฐมนูกิจ พบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านอยู่จำนวนหนึ่ง และจับกุมนายวัลภล หัวหน้าเครือข่าย พร้อมอาวุธปืนสั้น 3 กระบอก และนายสิงห์ณรงค์ เจ้าของบ้าน
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ไปรับยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้าน แล้วนำมาบรรจุลงกล่องพัสดุ และกำลังจะนำส่งให้กับลูกค้าผ่านทางบริษัทส่งพัสดุเอกชน โดยลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
