รอง ผบ.ตร. แถลงผลงานตำรวจ ปส.จับกุมเครือข่ายยาเสพติด 3 คดี ยึดไอซ์ 1,145 กก.
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติด 3 ราย โดยคดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส 4 ร่วมกับ บก.ขส. จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายอาคม (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี น.ส.แหม่ม (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี และ น.ส.ชญาดา (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี หลังสืบทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางนำไปส่งให้กับขบวนการค้ายาเสพติดทางภาคใต้ พบรถกระบะของกลาง 3 คัน บรรทุกพืชผักทางการเกษตรมาเต็มคัน ขับตามกันมาโดยรถบรรทุกสินค้าจอดแวะที่ปั๊มนํ้ามันแห่งหนึ่ง จ.พัทลุง
เมื่อตรวจค้นพบนายอาคมเป็นผู้ขับขี่ สารภาพว่า มียาเสพติดทุกซ่อนอยู่ ใช้สินค้าทางการเกษตรอำพราง ส่วนรถอีก 2 คัน จับกุมได้ที่ริมถนนสาย 41 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้ยาไอซ์ 688 กิโลกรัม พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยขบวนการดังกล่าวเป็นขบวนการค้ายาไอซ์ข้ามชาติ นำยาเสพติดมาจากทางภาคอีสานส่งต่อกันเป็นทอดๆ ไปยังปลายทางประเทศที่ 3 นอกจากนี้ ตำรวจ บก.ปส.4 ร่วมกับตำรวจ บก.น.7 ขยายผลการเครือข่ายดังกล่าวได้ผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 คน พร้อมยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส. บช.ปส. และ บก.ขส. ร่วมกันจับกุมนายทวีชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี หลังจากชุดจับกุมทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานจัดหาคนรับจ้างลำเลียงยาเสพติด โดยประสานกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดยาไอซ์ ยาบ้า จำนวนมาก จากพื้นที่ภาคเหนือผ่านเข้ากรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อไปส่งมอบให้กับลูกค้าตามการสั่งการของผู้ว่าจ้างในพื้นที่จังหวัดสตูล และออกไปยังประเทศที่ 3 โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดรถบิ๊กซี สาขาบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาไอซ์ 10 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม อยู่ในห่อชาสีเขียว วางบรรทุกอยู่ในห้องโดยสารด้านหลังผู้ขับขี่รถกระบะยี่ห้อ มาสด้า บีที-50 สีดำ จึงจับกุมและยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
และคดีสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับหน่วยข่าวกรองทางทหารจับกุม นางภคอร (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ได้บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และ นายกนกธัช (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถตลาดไท หลังพบว่า จะมีการลำเลียงยาไอซ์จากภาคเหนือตอนบนมายังพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง โดยพบรถยนต์โตโยต้า วิช สีบรอนซ์ทอง วิ่งผ่านทางหลวงเลขที่ 11 อ.เด่นชัย จ.แพร่ จึงได้จัดกำลังติดตาม กระทั่งเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 ผ่าน จ.พิจิตร มุ่งหน้าเข้า จ.นครสวรรค์ จึงประสานเจ้าหน้าที่การตรวจพยุหะคีรี เข้าสกัดกั้นไว้ก่อนจับกุมนางภคอร ได้ของกลางไอซ์ 84 กิโลกรัม ซึ่ง นางภคอร รับว่า ถูกว่าจ้างจากบุคคลหนึ่งใช้แอปพลิเคชันไลน์ ว่า “ฟ้าหลังฝน” ให้ขับรถซุกซ่อนยาเสพติดจากเชียงรายเข้ามายังกรุงเทพมหานคร โดยจะมีคนมารับรถดังกล่าวติดต่อมาอีกครั้ง ก่อนขยายผลจับกุมนายกนกธัช โดย นายกนกธัช รับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างให้มาขับรถที่จอดไว้บริเวณตลาดไท เพื่อไปจอดตามจุดหมายที่ผู้ว่าจ้างสั่งมาโดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบไอซ์เพิ่มอีก 30 กิโลกรัม รวม 114 กิโลกรัม
จากการปฏิบัติการทั้ง 3 คดี เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาไอซ์ได้ทั้งสิ้นรวม 1,145 กิโลกรัม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จะได้ดำเนินการขยายผลติดตาม ออกหมายจับบุคคลที่หลบหนี รวมไปถึงบุคคลในเครือข่ายทุกคนมาดำเนินคดี รวมถึงนำประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายยาเสพติดให้ได้ทั้งหมด
ด้าน พล.ต.อ.ชินภัทร เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่กลุ่มขบวนการค้าไอซ์จะส่งยาเสพติดไปยังประเทศที่สามร้อยละ 80-90 เนื่องจากในต่างประเทศยังมีความต้องการสูง ทางกลุ่มขบวนการยาเสพติดจึงทำทุกวิถีทางที่จะขนส่งลำเลียงยาเสพติดออกนอกประเทศให้ได้มากที่สุด อีกทั้งในประเทศไทยระบบการขนส่งมีความสะดวก จึงมีความพยายามที่จะขนลำเลียงยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง