MGR Online - รมว.ยุติธรรม เผย คดียาเสพติด ในรอบ 3 เดือน ยึดอายัดทรัพย์ได้ 20,197 ล้านบาท เข้ากองทุนยาเสพติดแล้ว 541 ล้านบาท ส่วนเครือข่าย “ตู้ห่าว” ตามยึด 5,344 ล้านบาท จ่ออีก 3,000 ล้านบาท
วันนี้ (13 ม.ค.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานแถลงข่าวผลงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแผนปฎิบัติการ 6 มาตรการ ไตรมาสที่ 1 โดยมี Mr.Jeremy Douglas ผู้แทน UNODC Mr.Marc Lang เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ DEA น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมแถลง
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผลงานการแก้ปัญหายาเสพติด ตามแผน 6 มาตรการ ในรอบ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 65 ป.ป.ส.ได้บูรณาการทำงานอย่างเข้มข้น ร่วมกับหน่วยงานภาคีทุกภาคส่วน ทั้งภายใน และต่างประเทศ ผ่าน 6 มาตรการ คือ 1. มาตรการป้องกันยาเสพติด 2. มาตรการปราบปรามยาเสพติด 3. มาตรการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด 4. มาตรการบำบัดรักษายาเสพติด 5. มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ และ 6. มาตรการบริหารจัดการ โดยตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ ได้เพิ่มมาตรการยึดอายัดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรยาเสพติด เข้ามา
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานตามมาตรการที่ 1 มาตรการป้องกันยาเสพติด ได้ดำเนินการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอน และ ประชาสัมพันธ์เชิงรุก ทั้งในสถานศึกษา จำนวน 692,858 คน นอกสถานศึกษา 6,261 คน กลุ่มแรงงาน 265,903 คน และประชาชนทั่วไป 5,742,921 คน รวมถึงดำเนินการป้องกันยาเสพติด ในกลุ่มแรงงาน ด้วยการค้นหาผู้เสพผู้ติดในสถานประกอบการ 314 แห่ง จากเป้าหมาย 400 แห่ง และส่งเสริมภาคสังคมห่างไกลยาเสพติด ผ่านโครงการบริจาคโลหิต “90 พรรษา 90 ล้านซีซี ถวายราชสดุดี สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ของเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน โดยได้รับการบริจาคถึง 255 ล้านซีซี
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า 2. มาตรการปราบปรามยาเสพติด ได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายสำคัญ สามารถยึดอายัดทรัพย์สิน ได้ 242 เครือข่าย จากเป้าหมาย 1,000 เครือข่าย ดำเนินการตามข้อร้องเรียนของประชาชน ผ่านสายด่วน 1386 แล้ว 2,142 เรื่อง จากทั้งหมด 4,794 เรื่อง เร่งรัดการติดตามจับกุมผู้มีหมายจับคดียาเสพติด ดำเนินการได้ 88 หมายจับ จากเป้าหมาย 8,402 หมายจับ รวมถึงคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “ตู้ห่าว” กับพวก เลขาธิการ ป.ป.ส. อนุมัติแจ้งข้อหา รวม 20 คน นอกจากนี้ มีความร่วมมือปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าอากาศยานานานชาติของอาเซียน สามารถตรวจยึดยาเสพติด 58 คดี ได้ของกลาง เฮโรอีน 69 กิโลกรัม, ยาบ้า 13,500 เม็ด ,ไอซ์ 52 กิโลกรัม, ยาอี 85,150 เม็ด, โคเคน 8.1 กิโลกรัม ซึ่งผลงานดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
“และ 3. มาตรการสำคัญ คือ มาตรการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด โดยผลการยึดอายัดทรัพย์ 3 เดือน ประจำปี 2566 ดำเนินการได้แล้ว 20,197 ล้านบาท จากเป้าหมาย 100,000 ล้านบาท และสามารถนำมูลค่าทรัพย์สิน เข้ากองทุนยาเสพติดได้แล้ว จำนวน 541 ล้านบาท โดยเมื่อย้อนดูผลยึดทรัพย์ปี 2558 ได้เพียง 956 ล้านบาท แต่เมื่อมีกฎหมายใหม่ ปี 2564 ยึดได้ 7,346 ล้านบาท ปี 2565 ยึดได้ 11,003 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่า ตัวเลขมีพัฒนาการที่ดีขึ้นชัดเจน รวมถึงเงินเข้ากองทุนก็มากขึ้น เพราะตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา เข้ากองทุนได้เพียง 20-30 ล้านบาทท ดังนั้น ที่พูดกันว่า ยาเสพติดเต็มไปหมด ไม่ทำอะไรเลย ก็ขอให้เปิดใจดูผลงานที่มีตัวเลขชัดเจนขนาดนี้” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเฉพาะเครือข่ายคดี นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “ตู้ห่าว” มีผู้ต้องหาทั้งหมด 37 ราย จับกุม 17 ราย หลบหนี 20 ราย สามารถยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว ประมาณ 5,344 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินที่เสนอออกคำสั่งยึดอายัดเพิ่มเติม เป็นรถบัสโดยสาร 262 คัน และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่ารวมประมาณ 216 ล้านบาท และอยู่ระหว่างกลั่นกรองเพื่อเสนอยึดอายัดเพิ่มเติม 800 รายการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท รวมเป็น 8,560 ล้านบาท ซึ่งถ้าจำนวนนี้ เป็นเงินยาเสพติดทั้งหมด คนแจ้งเบาะแสอย่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็จะได้รางวัลนำจับ 5%
“4. มาตรการบำบัดรักษายาเสพติด ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักคือ กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการบำบัดรักษาและฟื้นฟู แล้ว 28,174 ราย จากเป้าหมาย 99,117 ราย โดยในจำนวนนี้ จะมีผู้ติดยาเสพติดจนเกิดอาการหลอน ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ก็เข้าไปสนับสนุนด้วยการติดกำไลอีเอ็ม เพื่อเป็นมาตรการเฝ้าระวังผู้ติดยาที่มีอาการรุนแรง 5. มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ 1511 สามารถจับกุมได้ 115 คดี ผู้ต้องหา 173 คน ยึดยาบ้า 78 ล้านเม็ด ไอซ์ 7,450 กิโลกรัม เคมีภัณฑ์ หรือ สารตั้งต้น 53,911 กิโลกรัม และ 6. มาตรการบริหารจัดการ ได้พัฒนาบุคลากร ด้วยการจัดหลักสูตรต่างๆ ส่วนแผนงานในระยะต่อไป กำลังพัฒนาระบบ Blockchain ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด และรับเงินรางวัลนำจับ แบบไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้แจ้งข้อมูล โดยวันที่ 10 ก.พ. 66 เริ่มทดลองใช้” นายสมศักดิ์ กล่าว
