MGR Online - เหยื่อกว่า 30 ราย แห่แจ้งจับร้านเพชรพันปี หลอกขายเพชร-เครื่องรางของขลัง ปลอม อ้างนำดวงลูกค้าวางไว้ที่ใต้ฐานพระแก้วมรกต รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้าน
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายกว่า 30 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ธีระพงศ์ ผงตรี รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ.เพื่อให้ดำเนินคดีกับร้านเพชรพันปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังจากมีผู้เสียหายที่ซื้อเพชรและเครื่องรางของขลังไปแล้ว กลับได้สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ มีทั้งของปลอม และของที่ไม่ได้คุณภาพ ความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนพากลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อเพชร, ของขลัง และอัญมณีทั้งหลายไปจากร้านเพชรพันปี มาร้องกล่าวโทษต่อตำรวจ ปคบ.ทั้งเรื่องของสินค้า และสรรพคุณที่ไม่ตรงตามโฆษณา ความเสียหายรวมกันแล้วไม่ตํ่ากว่า 30 ล้าน นอกจากนี้ ก็ยังมีกรณีจัดฉากผู้ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 24 ล้านบาท ที่มีดาราหนุ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้มีประชาชนหลงเชื่อไปซื้อเครื่องรางของขลังมาเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกันเป็นจำนวนมากด้วย
ด้าน นายเอ (นามสมมติ) หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากรับของไปแล้ว ก็ได้ลองตรวจเช็กสินค้าที่เป็นพวกเครื่องรางของคลังจากในลาซาด้า ก็พบมีราคาขายอยู่ที่ 149 บาท แต่ร้านกลับให้เช่าบูชาในราคา 990 บาท โดนอ้างว่า มีการนำเข้าพิธีปลุกเสก ใส่แล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์โฆษณาด้วยว่าจะนําดวงของลูกค้าไปวางไว้ที่ใต้ฐานพระแก้วมรกต เพื่อเสริมดวง ทําให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ใช่ใครที่ไหนจะสามารถเข้าถึงที่ฐานขององค์พระแก้วมรกตได้
ส่วน นายบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายกรณีแหวนเพชร เปิดเผยว่า ตนเห็นโฆษณาของร้าน ที่อ้างว่า เป็นเพชรนํ้า 100 หรือเพชรขาวใสไร้สี แต่เมื่อลองนําไปตรวจที่สถาบันเพชร ก็พบว่า เป็นเพชรมีตําหนิ รวมถึงพลอยที่ล้อมก็ยังเป็นของปลอมอีกด้วย หากคนที่ดูเพชร-พลอยไม่เป็น หรือไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ก็ไม่สามารถแยกแยะออกได้เลยว่าอันไหนของแท้ หรือของปลอม ส่วนทองคําที่มีการระบุว่า เป็นทอง 18K แต่เมื่อนำไปเช็กแล้วก็พบว่าอยู่ที่ระดับ 9K เท่านั้น
ทนายรณณรงค์ ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงประชาชน หรือไม่นั้น ก็ต้องตรวจสอบเรื่องการกล่าวอ้างว่า จะมีการนําดวงของผู้เสียหายไปวางไว้ที่ใต้ฐานของพระแก้วมรกต ซึ่งหากทําได้จริง ก็จะไม่มีความผิด แต่หากท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถทําได้จริง ก็จะถือว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงประชาชนอย่างแน่นอน เนื่องจากทำให้มีผู้เสียหายเป็นจํานวนมากหลงเชื่อโฆษณาดังกล่าว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป