xs
xsm
sm
md
lg

พยานซัดอธิบดีอุทยานฯ บังคับส่งส่วย แถมตัดงบ 70% หัวหน้าหน่วยต้องกู้เงินมาดูแลผืนป่าเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ตำรวจ ปปป.เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของ อธิบดีกรมอุทยานฯ ด้านพยานให้การยืนยันว่าถูกบังคับส่งส่วย แถมถูกตัดงบประมาณสูงถึง 70% จนหัวหน้าหน่วยต้องกู้เงินมาดูแลผืนป่ากันเอง

วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายหลังกลุ่มเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ทยอยเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.1 บก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำ จากกรณีที่ ถูกนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช เรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่ง
โดยหนึ่งในพยาน กล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า การให้ข้อมูลครั้งนี้อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต แต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องของการถูกตัดงบประมาณการดูแลป่าและสัตว์ป่า ขณะที่ในส่วนของการทำงานมีความยากลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าคดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและหน่วยงานทั้งหมด ดังนั้นจึงอยากให้สังคมเข้าใจการทำงานของบุคลากรกรมอุทยานฯ เพราะที่ผ่านมาหลายคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากงบประมาณในการดูแลสัตว์ป่าถูกตัดออกไปมากถึง 70% ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาใช้ในการปฎิบัติหน้าที่ และดูแลลูกน้อง

เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของการให้ปากคำรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนรายละเอียดของคดีก็เป็นไปตามที่ นายชัยวัฒน์ ร้องเรียนไว้ ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่า มีการข่มขู่พยานในคดี สำหรับตนเองนั้นยังไม่ได้รับการข่มขู่จากใครแต่อย่างใด และไม่มีการกดดันจากผู้ใหญ่ในกระทรวง ส่วนคนอื่นไม่ทราบ ทั้งนี้ตนเองไม่ได้กลัวการถูกข่มขู่ แต่กลัวสิ่งที่เจ้าหน้าที่ปกป้องผืนป่ามาจะสูญเปล่า

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า พยานที่มาในวันนี้เป็นกลุ่มของ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี  ซึ่งเป็นกลุ่มที่นำเงิน 98,000 บาท มาส่งให้นายรัชฎา และเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเรียกรับเงิน จากการสอบปากคำทุกคนให้ การเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าถูกบังคับโดยส่วนใหญ่ไม่ยินยอมและไม่สมัครใจ  แต่สาเหตุที่ยินยอมเพราะเกรงกลัวอำนาจจึงยอมทำตามข้อเรียกร้องของนายรัชฎา

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่อที่ปรากฏบนซองเงินของกลางภายในห้องทำงานจำนวน 21 ซอง สามารถตรวจสอบทราบบุคคลได้แล้ว 14 คนซึ่งเป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานนั้นๆ ที่กล่าวอ้างว่า ถูกเรียกเก็บเงิน  ล่าสุดได้ออกหมายเรียกแล้ว 6 คนให้มาวันที่ 11 มกราคม และจะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 คนให้มาในวันที่ 12 มกราคม เวลา 10.00 น. ซึ่งมีบางส่วนยินยอมจะเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ส่วนใครจะมาหรือไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็เป็นสิทธิของพยาน  แต่ในทางคดี อนาคตพยานก็จะถูก ป.ป.ช.เรียกสอบปากคำในภายหลังเพิ่มเติมอยู่ดี

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องการสอบเส้นทางการเงิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงปลายทางของเงินที่ถูกเรียกเก็บ แต่ยืนยันว่าหากเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีการกระแสข่าว ว่าหลังจากที่นายรัชฎาได้รับการประกันตัวแล้วจะเข้าไปยุ่งเหยิงข่มขู่กับพยานหลักฐานหรือไม่นั้น ในส่วนนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบแต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น