รวบคนร้ายอ้างเป็นพนักงานทรู เปลี่ยนรหัสคิวอาร์โค้ดหลอกโอนเงิน ตระเวนหลอกร้านค้า พื้นที่จังหวัดนนทบุรี เจ้าตัวเคยเป็นพนักงานบริษัทย่อยของทรูมูฟ รับสารภาพนำเงินที่ได้เอาไปใช้หนี้นอกระบบ และเล่นพนันออนไลน์
จากกรณีเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. 65 เกิดเหตุมีชายแอบอ้างตนเองเป็นพนักงาน และแต่งกายคล้ายพนักงานของบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น เดินทางไปตามร้านขายสินค้าทั่วไปในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และได้อ้างว่าจะดำเนินการเปลี่ยน รหัสคิวอาร์โค้ดสำหรับรับเงิน หรือ QR CODE ภายในแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท (true money wallet) ให้แก่ร้านค้าต่างๆ ก่อนจะโอนเงินในบัญชีจากร้านค้าเข้าบัญชีตนเองก่อนหลบหนี มีผู้เสียหายหลายรายด้วยกัน
ต่อมาวันที่ 15 ธ.ค. 65 เวลา 15.40 น. คนร้ายได้ก่อเหตุซ้ำในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ ตร.สามารถติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ทราบชื่อต่อมาคือ นายจรัสพันธ์ แซ่อื้อ อายุ 33 ปี พร้อมด้วย ของกลางจำนวน 2 รายการ คือ 1. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น J6 สีม่วงจำนวน 1 เครื่อง 2. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda Wave 110 สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 2 ขด 5458 กทม. ใช้ในการก่อเหตุ ต่อมาจากการตรวจสอบ พบว่า คนร้ายดังกล่าวก่อเหตุลักทรัพย์โดยมีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีก ว่าจำนวน 61 เหตุ ความเสียหายรวมกว่า 148,222.64 บาท จากการตรวจสอบพบว่ามีประวัติต้องโทษคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์อีกจำนวน 2 คดี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” และความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (16 ธ.ค.) ทางด้าน พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวด้วยตนเองเพียงคนเดียว และได้นำเงินที่ได้จากการก่อเหตุไปใช้หนีสินนอกระบบและเล่นพนันออนไลน์ จนเงินในบัญชีธนาคารเหลือ 350 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยเป็นพนักงานของบริษัทย่อยของบริษัททรูมูฟจริง ตั้งแต่ปี 2563 แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นพนักงานแล้ว จึงได้ขยายผลการจับกุมให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ต้องหาต่อไป เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา ลักทรัพย์โดยมียานพาหนะ แต่เนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุหลายพื้นที่ จึงตั้งข้อหาเดียวแต่ต่างกรรมต่างวาระ จึงต้องประสานทั้งผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ตร.แต่ละพื้นที่ที่ผู้ต้องไปก่อเหตุมา
นายจรัสพันธ์ (ผู้ต้องหา) กล่าวว่า เมื่อก่อนตนเคยเป็นพนักงานบริษัท ทรูฯ จริง แต่ลาออกมาแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ทำงานอะไร จึง อาศัยประสบการณ์ที่ตนเคยเป็นพนักงานคุ้นเคยกับระบบทำคิวอาร์โค้ด และมีข้อมูลลูกค้าเก่าอยู่แล้วจึงได้กระทำไป ส่วนใหญ่เวลาหลอกผู้เสียหายจะไม่โอนเงินจากบัญชีทั้งหมด แต่จะโอนบางส่วนเท่านั้นเพราะกลัวว่าผู้เสียหายจับได้