xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มหัวร้อนยิงคู่กรณีดับคาโรงพักหลักสอง หลังเรียกเงิน 9 ล้านเป็นค่าเยียวยาโดนทำร้าย แต่ถูกปฏิเสธ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



หนุ่มวัย 27 ปี ถูกรุมทำร้ายริมถนนเพชรเกษมอาการสาหัส ตำรวจ สน.หลักสองนัดเจรจากับคู่กรณีบนโรงพัก เจ้าตัวเรียกค่าเสียหาย 9 ล้านบาท แต่โดนปฏิเสธ ชักปืนยิงคู่กรณีเสียชีวิตต่อหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมยิงทนายบาดเจ็บ ก่อนหลบหนี

วันนี้ (16 ธ.ค.) พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัฒน์ ผกก.สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในห้องปฏิบัติการพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ซอยเพชรเกษม 98 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเลขที่ 202 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่พบศพ นายคมสัน หรือม่อน อินทร์ฤทธิ์ อายุ 32 ปี อาชีพเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนยาวสีม่วง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ตามลำตัว 5 นัด นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายอนุสร วิชาธร อายุ 33 ปี เป็นทนายความของผู้ตาย ถูกยิงเข้าที่แผ่นหลัง จำนวน 3 นัดอาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง แพทย์ รพ.เกษมราษฎร์บางแค ไปก่อนหน้านี้ โดยในจุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกเกลื่อนพื้นจำนวน 8 นัด จึง เก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุเป็นคู่กรณีซึ่งถูกนายคมสันต์ผู้ตายทำร้ายร่างกาย บนท้องถนนเมื่อราว 4 เดือนก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ นายพีรสิน หรือพี กุลชุติสิน อายุ 27 ปี อาชีพพ่อค้าขับรถส่งพริกและสินค้าทางการเกษตร หลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยขับรถกระบะตีตู้ทึบสำหรับส่งของยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่สีขาว ไม่ทราบทะเบียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าหลบหนีกลับไปบ้านพักที่ย่านถนนพระราม 2 ขณะนี้กำลังฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวไปจับกุมมาดำเนินคดี

สำหรับมูลเหตุที่เกิดขึ้นมาจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นายพีรสินขับรถกระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านพักย่านพระราม 2 ไปรับสินค้าประเภทพริก ที่ถนนเพชรเกษม ย่านหลักสอง จากนั้นได้ขับรถนำสินค้ากลับบ้านพัก เพื่อรอเวลาไปส่งต่อให้กับลูกค้า ขณะที่ขับรถมาทางตรงเลนขวาสุด ช่วงระหว่างซอยเพชรเกษม 90-92 ก็สังเกตเห็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ 5 ประตู ทะเบียนป้ายแดง ล-6048 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาประกบจากทางด้านซ้าย จากนั้นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวได้เปิดกระจกขว้างขวดใส่ตัวถังรถของนายพีรสิน จนเกิดเสียงดังที่ประตูฝั่งคนนั่ง โดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ได้มีเรื่องราวปาดหน้าหรือมีปัญหาใดๆกันมาก่อน นายพีรสินจึงได้จอดรถ และเอื้อมมือไปหมุนกระจกฝั่งคนนั่งข้างๆ ลงเพื่อจะสอบถามว่าคนขับทำแบบนี้ทำไม

โดยระหว่างที่นายพีรสินเอี้ยวตัวไปรถกระจกลงนั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานด้วย แต่พอคนขับรถฮอนด้าเห็นจึงขว้างขวดเครื่องดื่มชูกำลังเข้าใส่อีก 1 ครั้ง ทำให้ขวดกระแทกมือถือของนายพีรสินจนหล่นได้รับความเสียหาย และในระหว่างที่นายพีรสินกำลังเอื้อมมือปิดกระจกฝั่งคนนั่งข้างๆ เพื่อเตรียมขับหลบหนีเพราะเห็นท่าไม่ดี คนขับรถคู่กรณีก็ได้ลงจากรถมาพร้อมเพื่อนผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังอีก 1 คน เข้ามารุมกระชากมือนายพีรสินที่พยายามหมุนกระจกรถขึ้น และดึงตัวนายพีรสินออกไปทางหน้าต่างประตูฝั่งคนนั่งข้างๆ แล้วรุมทำร้ายด้วยการใส่สนับมือชกต่อยที่ใบหน้าหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีและหน่วยกู้ภัยต้องรีบนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค ให้แพทย์รักษาอาการดั้งจมูกหัก ฟันหัก 3 ซี่ เบ้าตาบวมปิดทั้ง 2 ข้าง และมีเลือดออกนัยน์ตาทั้ง 2 ข้าง อาการสาหัส

หลังเกิดเหตุญาติๆ นายพีรสินได้โพสต์ข้อความผ่านทาง facebook และนำคลิปเหตุการณ์ในขณะที่นายพีรสินถูกทำร้ายกลางถนนมาลงเพื่อหาเบาะแส กระทั่งตำรวจสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ ซึ่งก็คือ นายคมสัน ผู้ตาย และวันนี้ พ.ต.ท.กฤษณะ ทองบ้านบ่อ สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง เจ้าของคดีได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาตกลงกันที่โรงพัก โดยนายคมสันต์ได้มาพร้อมกับ นายอนุสร วิชาธร อายุ 33 ปี ทนายความ เพื่อเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทั้งกรณีทำร้ายร่างกายนายพีรสิน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกรณีรถเฉี่ยวชนกันทำให้ยานพาหนะได้รับความเสียหาย

ระหว่างที่ นายพีรสิน เรียกร้องค่าเสียหายทั้งสิ้นจำนวน 9 ล้านบาท ต่อหน้าพนักงานสอบสวนนั้นปรากฏว่า นายคมสันต์ปฏิเสธยืนกราน ว่าไม่สามารถชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้ได้ ทางพนักงานสอบสวนจึงสรุปจะส่งสำนวนคดีฟ้องต่อศาล ทันใดนั้นนายพีรสินซึ่งทีแรกออกไปยืนสงบสติอารมณ์อยู่ด้านนอกห้องปฏิบัติการสอบสวน ก็เดินเข้ามาหาคู่กรณีและทนายความที่กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะพนักงานสอบสวน ก่อนตะโกนถามว่า "แล้วมึงทำกูทำไม" จากนั้นยกมือไหว้ พ.ต.ท.กฤษณะ เจ้าของคดี พูดว่า "ผมขอโทษครับ" ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกจากกระเป๋าสะพาย ยิงใส่คู่กรณี 8 นัด แล้วหลบหนีไป

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้เดินทางมาที่โรงพักควบคุมการสืบสวนด้วยตนเอง เบื้องต้นอยู่ระหว่างนำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง ลงพื้นที่กดดันผู้ต้องหาเพื่อให้เข้ามามอบตัว ซึ่งผู้สื่อข่าวยังมีรายงานด้วยว่า ขณะเกิดเหตุการณ์ นายคมสัน ผู้ตายยังได้พาภรรยาและลูกสาววัย 1 ขวบ มาที่โรงพักและนั่งอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนด้วย ทำให้ลูกน้อยต้องกำพร้าพ่อ จากเหตุการณ์ถูกกระหน่ำยิง ไปต่อหน้าต่อตา
กำลังโหลดความคิดเห็น