xs
xsm
sm
md
lg

เคลียร์ไม่ลงตัว คนงานก่อสร้างฆ่ากันตาย ฉุนเพื่อนได้ค่าแรงมากกว่า ก่อนถูกรวบทันควัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



คนงานก่อสร้างคว้าด้ามจอบฟาดหัวเพื่อนร่วมตายคาวงเหล้า ในไซต์งานก่อสร้างบ้านย่านลำลูกกา ปมเหตุฆาตกรรมคนตาย ไม่พอใจคู่กรณีได้เงินค้าแรงมากกว่า ซ้ำขู่ฆ่าปาดคอ

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.สมโภชน์ สืบวงศ์กร รองสารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุคนงานทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธตีกันถึงตาย เหตุเกิดภายในหมู่บ้านพรจิรา (คลอง 7) ที่บ้านเลขที่ 36/129 หมู่บ้านพรจิรา ถนนคลอง 7 ตะวันตก หมู่ 1 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ร่วมกับ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา, พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี รอง ผกก.สอบสวน สภ.ลำลูกกา, พ.ต.ท.ภาคิน นิธิพัฒนะ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.อิทธิกร สง่ากร สว.สส.สภ.ลำลูกกา, ร.ต.อ.ประทาน ใจมา รอง สวป. และกำลังสายตรวจฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำลูกกา จำนวนหนึ่ง แพทย์เวรโรงพยาบาลลำลูกกา, รถกู้ชีพ, รถพยาบาล และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทจังหวัดปทุมธานี รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดียวชั้นเดียว เลขที่ 36/129 ที่เจ้าของบ้านจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างรีโนเวตบ้านใหม่ทั้งหลัง บริเวณหน้าประตูพบศพคนงานชายนอนจมเลือดเสียชีวิต ทราบชื่อ นายสุริยา หรือ แก้ว ชูแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 2 ต.หารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง สภาพมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ใกล้กันพบด้ามจอบหักเปื้อนเลือดทิ้งไว้ห่างไปบริเวณหน้าบ้าน พบมีดคัตเตอร์ตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุเพื่อนคนงานทราบชื่อ คือ นายกฤตภาส หรือ เทิด ปิ่นมี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 561/1 หมู่ 1 ต.ปากพะยูน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขนจ 559 สุพรรณบุรี ขับหลบหนีไปทางแยกธัญบุรี พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนไล่ติดตามจับกุม พบผู้ต้องหากำลังจะขับข้ามสะพานคลองเจ็ด จึงเข้ารวบตัวไว้ทันควัน

จากนั้นคุมตัวมาที่เกิดเหตุเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นคนใช้ด้ามจอบตี นายสุริยา จริง พร้อมทั้งได้ถ่ายคลิปไว้ด้วย ขณะก่อเหตุใช้ด้ามจอบฟาดผู้ตายจนเสียชีวิต

นายกฤตภาส ผู้ต้องหาอ้างว่า ผู้ตายจะเอามีดคัตเตอร์มาปาดคอ ผู้ตายหาว่า ตนได้ค่าแรงมากกว่า จึงวิ่งไปคว้าจอบฟาดหัวไปหลายครั้ง จนเสียชีวิต ผู้ตายตนเองเป็นคนพานั่งรถมาจากพัทลุง มาทำงาน แต่กลับมาแว้งกัดหาว่าได้ค่าแรงมากกว่า ตนเองได้ 700 บาท ผู้ตายได้ 600 บาท ที่ตนเองได้มาก เพราะเป็นคนคุมงาน ผู้ตายไม่พอใจ กินเหล้าแล้วเข้าไปด่าตนเองถึงหน้าห้องและถือมีดคัตเตอร์ไปด้วย ตนเองโทร.ไปหาเพื่อนบอกให้รีบมา เพราะผู้ตายมันมาหาเรื่อง แต่เพื่อนมาไม่ทัน ผู้ตายถือมีดเข้ามาหาก็เลยใส่ก่อน ผลักผู้ตายล้ม จากนั้นได้คว้าจอบฟาดผู้ตายจนเสียชีวิต ไม่รู้ว่าตีผู้ตายไปกีครั้ง

ด้าน นางธัญญาภัทร์ น้ำเพชร อายุ 40 ปี แฟนผู้รับเหมารีโนเวตบ้าน บอกว่า ผู้ตายชื่อเล่นนายแก้ว ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายเทิด ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน บ้านอยู่พัทลุง พากันมาทำงานด้วยกัน ทั้งคูมีปัญหา ก่อนหน้านี้ ไปเทียวคาราโอเกะ แล้วมีเรื่องตีกันเองกลางซอย นายเทิด แยกไปนอนรีสอร์ต 2 คืน และก่อนเกิดเหตุกลับมานอนที่นี่ เราก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ก็ให้ผู้ตายทำประตูบ้าน ส่วนนายเทิด ปูกระเบื้อง ตอนเย็นตนกับแฟนต้องออกไปรับลูก ก่อนไปยังพูดแซวทั้งคู่ว่าอยู่กันดีๆ อย่าทะเลาะกันละ มารู้ทีหลังว่านายเทิด แชตด่าในเฟซบุ๊กตั้งแต่กลางวัน ว่า มึงมายุ่งกับกูมาทำอะไรกูเอามึงตาย นายแก้วโทร.มาบอกว่า ผู้ตายจะปาดคอกู มึงมาดู แฟนก็บอกให้ขี่รถหนีออกมา ไม่นานทางเจ้าของบ้านโทร.มาบอกคนงานที่บ้านฆ่ากันตายแล้ว ก็ตกใจ ตอนนายเทิดโทร.มาไม่บอกว่าได้ฆ่านายแก้วตายแล้ว จึงรีบกลับมาดูพบว่านายแก้วเสียชีวิตแล้ว ส่วนนายเทิดไม่อยู่แล้วบอกว่าอีกสองวันจะมามอบตัวตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมได้ก่อน

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับแพทย์เวร จึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว นายกฤตภาส ปิ่นมี (ผู้ก่อเหตุ) ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อทำการสอบสวนถึงสาเหตุของการเสียอีกครั้ง พร้อมแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มูลนิธิกู้ภัยร่มไทจังหวัดปทุมธานี นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตร ยังโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี (มศว คลองสิบหก ) อ.องครักษ์ จ.นครนายก เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง และจะได้ติดตามญาติเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น