xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.เซ็นตั้งจเรตำรวจสอบปม “ชูวิทย์” แฉ ตม.แปลงวีซ่าเอื้อทุนจีนสีเทา พล.ต.ต.เพื่อนร่วมรุ่น “รองโจ๊ก” เอี่ยวด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งตั้งจเรตำรวจ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี “ชูวิทย์” แฉข้อมูลตำรวจ ตม.แปลงวีซ่าเอื้อประโยชน์ทุนจีนสีเทา พล.ต.ต.เพื่อนร่วมรุ่น “รองโจ๊ก” เอี่ยวด้วย โดยให้รายงานผลภายใน 15 วัน

วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 581/2565 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2565 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใจความว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อออนไลน์หลายช่องทาง เช่น Matichon Online Thairath Online Nation Online รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้แถลงข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจลงตรา (Visa) ของข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในห้วงปี พ.ศ. 2563-2564 ว่า มีลักษณะที่อาจเป็นการเอื้อประโยชน์หรืออำนวยความสะดวกต่อบุคคลบางกลุ่มหรือไม่นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย บุคคลดังต่อไปนี้ 1. พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9) เป็น ประธานกรรมการ 2. พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู รองจเรตำรวจ (สบ 7) เป็น กรรมการ 3. พล.ต.ต.เจนกมล คำนวล ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ 4. พ.ต.อ.โอภาส ทั่งทอง รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ 5. พ.ต.อ.สุกรี สินเย็น ผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ 6. พ.ต.ท.ไพโรจน์ เรืองทิพย์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ 7. พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เจียมศิริ สารวัตรฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและเลขานุการ 9. พ.ต.ต.หญิง นัฐชกร กองแก้ว สารวัตร ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ 9. ร.ต.อ. หญิง ปวีณา ฟุ้งตระกูล รองสารวัตร ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ 10. ร.ต.อ. ภัทรชนน เพชรแอน รองสารวัตรฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจในการรวบรวมข้อมูลและพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวและ พิจารณามีความเห็นว่ามีข้าราชการตำรวจรายใดเกี่ยวข้องและมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งของทางราชการ หรือไม่ อย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน

สำหรับสาเหตุที่ ผบ.ตร.มีการเซ็นคำสั่งครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ แถลงข่าวนำเสนอข้อมูลแฉกลวิธีขออยู่เมืองไทยระยะยาวของกลุ่มคนจีนที่เดินทางเข้ามาแฝงตัวทำธุรกิจสีเทาในประเทศไทย โดยใช้วิธีการแปลงวีซ่าจากนักท่องเที่ยว ผ่านทางมูลนิธิบางแห่ง ซึ่งนายชูวิทย์อ้างว่าขบวนการดังกล่าวมีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สตม.พัวพันไปถึงนายตำรวจยศ พล.ต.ต.จำนวน 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คนนั้น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวยืนยันแล้วว่าแม้นายตำรวจที่ถูกนายชูวิทย์พาดพิงถึงจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของตนก็ตามตนก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น




กำลังโหลดความคิดเห็น