xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 4 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซนเตอร์นำประสบการณ์จากกัมพูชา ตั้งกลุ่มสตาร์ทอัปตุ๋นเหยื่อในไทยร่วมลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจชุด PCT 5 เข้าค้นคอนโดเมืองสมุทรปราการ จับ 4 ผู้ต้องหาเคยร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ไม่พอใจได้ส่วนแบ่งแค่ 3% ทั้งที่ทำเงินให้เดือนละ 100 ล้าน ออกมาตั้งกลุ่มสตาร์ทอัปในไทย ใช้รูปสาวสวยสร้างเฟซบุ๊กปลอม พูดคุยเชิงชู้สาวกับเหยื่อ ก่อนหลอกชวนร่วมลงทุน



วันนี้ (5 ธ.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ร่วมกับชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามนำมาสู่การเข้าตรวจค้น ห้องพักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 762/2565 ลงวันที่ 4 ธ.ค. 65 จับกุม นายสุพรพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรีที่ จ.236/2565 ลงวันที่ 4 ธ.ค. 65 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์ ออลอินวัน 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง สมุดบัญชี 5 เล่ม และซิมการ์ดโทรศัพท์ 38 ซิม โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ภายในคอนโดย่าน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ทราบว่า ทั้ง 4 คน ร่วมกันหลอกลวงโดยสร้างเฟซบุ๊กปลอม และใช้ภาพโปรไฟล์เป็นสาวสวยชักชวนเพื่อนในเฟซบุ๊ก โดยพูดคุยเชิงชู้สาวเพื่อชักชวนมาลงทุน เมื่อเหยื่อสนใจ จะเชิญเข้า “กลุ่มไลน์” อ้างว่า เป็นบริษัทที่ชื่อว่า E-SHIPING.SHOP ซึ่งแท้จริงเป็นบริษัทที่ไม่มีอยู่จริง จากนั้นจะให้คุยกับ อ.กอล์ฟ ซึ่งเป็นตัวตนปลอมที่อุปโลกน์ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน หลอกเสนอขายแผนโปรแกรม โดยภายในกลุ่มไลน์ดังกล่าวจะมีเหยื่ออยู่ในกลุ่มเพียงคนเดียว ที่เหลือจะเป็นหน้าม้าทั้งหมด

โดยจะมีการให้หน้าม้าส่งภาพสลิปการโอนเงินทำทีว่าได้รับเงินจริง ซึ่งเป็นสลิปการโอนเงินปลอม เมื่อเหยื่อเห็นว่าคนในกลุ่มได้รับเงินโอนจริงจะเกิดความโลภและยอมโอนเงินลงทุนในที่สุด และเมื่อเหยื่อโอนเงินแล้วจะทำทีแสดงข้อมูลในโปรแกรมโชว์ยอดรายได้ให้เหยื่อเห็น แต่เหยื่อต้องการถอนเงินก็จะไม่สามารถถอนได้

โดยจะอ้างว่าเหยื่อทำผิดวิธี และจะชักชวนให้ลงทุนเพิ่มไปเรื่อยๆ โดยรูปแบบการวางระบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้เป็นรูปแบบเดียวกับหลายๆ แก๊งที่ตั้งออฟฟิศอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลุ่มนี้สามารถรวบรัดระบบต่างๆ ไว้ในห้องเดียวด้วยคอมพิวเตอร์เพียง 3 เครื่อง และใช้คนจัดการเพียง 4 คน ซึ่งบ่งบอกถึงประสบการณ์และความเข้าใจในการทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอย่างดี

หลังเสร็จสิ้นการตรวจค้น ชุดจับกุมได้ทำการจับกุมตัว นายสุพรพงษ์ ปัญญาไว หรือแบงค์ ตามหมายจับของศาล นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำตัวหญิงสาวอีก 3 รายมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

โดย น.ส.คณิณัช จิรโชควนิช หรือ แฟง ได้ให้การว่า ตนเองเคยเป็นพนักงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา ซึ่งทำจนมีความชำนาญมาก มีความรู้ระดับอาจารย์ แต่ละเดือนตอนอยู่กัมพูชาสามารถทำยอดเงินได้เดือนละเป็น 100 ล้านบาท ยอมรับว่า ตัวเองคนเดียวสามารถทำงานได้เหมือนคนหกคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งเมื่อทำไปเรื่อยก็เกิดความรู้สึกที่ว่า เหตุใดต้องทำงานเพื่อรับเปอร์เซ็นต์จากบอสชาวจีนแค่ 3% จึงเกิดความโลภคิดอยากทำเองเพื่อจะได้รับเงินเต็มๆ

โดยระหว่างที่ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา ได้แอบเก็บข้อมูล รูปแบบ สคริปต์ต่างๆ ของชาวจีน และได้เลือกรูปแบบที่คิดว่าสมบูรณ์แบบเก็บติดตัวไว้ จากนั้นได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยเมื่อประมาณเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้จ้างให้โปรแกรมเมอร์คนไทยที่อยู่ในประเทศกัมพูชา เขียนโปรแกรมให้ ในราคา 60,000 บาท จากนั้นจึงได้ร่วมกับพวกที่อยู่ในห้องอีก 3 คน ทำด้วยกัน โดยส่วนแบ่งรายได้ออกเป็น ตนเองจะได้ 30% นายสุพรพงษ์ หรือ แบงค์ จะได้ 30% ส่วนอีก 2 คนจะได้คนละ 20%

ทั้งนี้ หวังไว้ว่า ตนเองจะเป็นผู้ก่อตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของคนไทยเจ้าแรก และจะเป็น Start Up เพื่อขยายกิจการในประเทศไทย แต่ทำได้เพียง 2 เดือน ก็มาถูกจับเสียก่อน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายโดยจะมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับทั้งหมดตามกฎหมายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนต่อไป

ด้าน นายสุพรพงษ์ ให้การว่า ตนเองเป็นพนักงานอยู่ในเว็บพนันชื่อว่า UFABET168.net โดยมีเจ้าของเป็นชายไทย ที่มีฐานะคนหนึ่ง ซึ่งตอนอยู่ที่กัมพูชา ได้รู้จักและเป็นแฟนกับ น.ส.คณิณัช ซึ่งตอนนั้น น.ส.คณิณัช เคยทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และเอารูปแบบนั้นกลับมาทำที่ประเทศไทย โดยตนเองก็ร่วมทำด้วยกัน ซึ่งหน้าที่ต่างๆ ก็จะช่วยกันทำทั้ง 4 คน และเมื่อได้กำไรก็จะนำมาแบ่งกัน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ มีความน่ากลัว เพราะทั้ง 4 คน ถือเป็นระดับหัวกะทิ ที่นำความรู้ความสามารถจากการเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน กลับมาตั้งต้นทำในประเทศไทย ซึ่งเราจะมีการขยายผลต่อไปจนถึงที่สุด

โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเกิดมาจากการวางรากฐาน วางระบบไว้อย่างดี ของท่าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ซึ่งท่านได้ทำไว้ตั้งแต่สมัยยังดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เป็นหัวเรือทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเป็นเวลาหลายปี พร้อมเตือนประชาชนคนไทยที่ว่างงานอยู่ กำลังตัดสินใจไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่ไปแล้วก็เป็น call center และเมื่อใดที่ไปเข้าร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว คุณจะกลับประเทศมาเยี่ยงอาชญากร มิใช่เหยื่อ






กำลังโหลดความคิดเห็น