MGR Online - โฆษก ตร.แถลงผลงานรอบ 2 เดือน เน้นงานนโยบาย 5 ด้าน เร่งด่วน แก้ปัญหาผู้เสพกว่า 1.4 แสนราย จับกุมปืน 22,027 คดี กวาดล้างยาเสพติด 47,310 คดี พนันฟุตบอล 5,101 ราย ทลายเครือข่ายนายทุนจีน แก๊งต่างชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
วันนี้ (30 พ.ย.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านอาชญากรรม ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ด้านปัญหายาเสพติด อาวุธปืน สถานบริการ การพนัน คดีออนไลน์ และเครือข่ายคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย อย่างเฉียบขาด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยบังคับใช้ทุกมาตรการทางกฎหมาย
พล.ต.ต.อาชยน แถลงว่าสถิติอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.- 28 พ.ย. 65 รับคำร้องทุกข์ 142,740 คดี จับกุมได้ 131,349 คดี คิดเป็น ร้อยละ 92 จับกุม อาวุธปืนและวัตถุระเบิด 22,027 คดี 20,316 คน จำแนกเป็นอาวุธปืนสงคราม 220 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 6,466 คดี และ ปืนมีทะเบียน 529 คดี คดีเกี่ยวกับการพนัน 15,407 คดี ผู้ต้องหา 18,170 คน จับกุมกรณีบ่อนการพนัน 4 คดี ผู้ต้องหา 108 คน
โฆษก ตร.กล่าวต่อไปว่า สำหรับศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลโลก (World Cup 2022) มีผลปฏิบัติจับกุมเจ้ามือ จำนวน 104 ราย จำแนกเป็นเจ้ามือ 57 ราย เจ้ามือออนไลน์ 47 ราย ผู้เล่น 4,975 ราย จำแนกเป็นผู้เล่นทั่วไป 4,559 ราย ผู้เล่นออนไลน์ 416 ราย และคนเดินโพย 22 ราย โดยยึดของกลางโพยบอล 7,064 ใบ เงินสด 98,140 บาท รวมมูลค่า 1,268,000 บาท จับกุมความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 1,032 คดี ผู้ต้องหา 1,024 คน
ด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า มีการค้นหาและนำผู้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัด จำนวน 72,716 ราย และผู้เสพที่มีอาการ ทางจิตประสาท จำนวน 21,143 ราย รวมทั้งสิ้น 93,859 ราย ผู้เสพไม่สมัครใจบำบัดหรือกระทำผิดซ้ำ จับกุม จำนวน 46,980 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้จำหน่าย ครอบครองเพื่อการค้า ซึ่งทำให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน จำนวน 9,329 ราย โดยสามารถนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งสิ้น จำนวน 140,839 ราย ระยะเวลา ต.ค.-พ.ย. 65 คิดเป็นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมยาเสพติด 47,310 คดี ผู้ต้องหา 46,453 คน ปริมาณของกลางยาบ้า 34,827,953 เม็ด ไอซ์ 67.88 กิโลกรัม เฮโรอีน 125.9 กิโลกรัม เคตามีน 406.5 กิโลกรัม โคเคน 2.4 กิโลกรัม และยาอี 1,217 เม็ด ดำเนินการตามยึดทรัพย์ ตามมาตรการฟอกเงิน 3 ราย
สำหรับสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 มี.ค.- 29 พ.ย.65 รับแจ้งความ 134,268 คดี พบว่า ข้อมูล 5 กลโกง ที่พบการรับแจ้งมากที่สุด ได้แก่ 1. คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 2. โอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม 3. หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 4. หลอกให้ลงทุน 5. หลอกลวงทางโทรศัพท์แบบเป็นขบวนการ หรือ Call Center ส่วนข้อมูล 5 กลโกงที่พบความเสียหายสูงสุด 1. หลอกให้ลงทุน (6.4 ล้านบาท) 2. หลอกลวงทางโทรศัพท์แบบ เป็นขบวนการ (2.1 ล้านบาท) 3. โอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม (2.0 ล้านบาท) 4. หลอกให้รักแล้วลงทุน (0.99 ล้านบาท) 5. หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน (0.67 ล้านบาท) สามารถติดตามอายัดบัญชี 49,765 บัญชี สามารถอายัดได้ทัน 385,759,583 บาท
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่าด้านเครือข่ายคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ผบ.ตร. สั่งการให้ ผบช.สตม. ดำเนินการเพิ่มความเข้มในการคัดกรอง กวาดล้างและจัดระเบียบ คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย กระทำความผิดลักษณะเป็นเครือข่ายคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนี้
คัดกรองคนต่างด้าวมีการปฏิเสธคนต่างด้าวเข้าเมือง จำนวน 3,395 ราย คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 2,005 ราย ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น 21 ราย และจัดระเบียบคนต่างด้าวในประเทศ ไม่รายงานตัวฯ 582 ราย (มาตรา 37) ไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าว 8,770 ราย (มาตรา 38) และจับกุมคนต่างด้าวอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) จำนวน 1,073 ราย
ขยายจับกุมเครือข่ายนายทุนจีนผิดกฎหมาย จากกรณี ร้านผับจินหลิง คดีที่เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 65 เข้าตรวจค้น พบผู้ใช้ยาเสพติดกว่า 104 ราย และพบยาเสพติดจำนวนมาก พร้อมตรวจยึดรถยนต์หรู จำนวน 35 คัน จากการขยายผลพบเพิ่มอีก 4 กรณี ได้แก่
1. ร้านคลับวันพัทยา พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา หลังการตรวจค้น พบยาเสพติดจำนวนมาก ผู้ต้องหา 4 ราย
2. ร้านท็อปวัน พื้นที่ สน.สุทธิสาร มีกลุ่มคนจีนเป็นเจ้าของ โดยใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินี จำนวน 2 ราย
3. ร้านจินหลิง พื้นที่ สน.ยานนาวา จับกุมขยายผลผู้ต้อง 4 ราย ได้ของกลางเป็นยาเสพติดประเภท เฮโรอีน ยาอี และแฮปปี้วอเตอร์ ตรวจค้นจุดต้องสงสัยกว่า 38 จุด ยึดรถหรู 5 คัน เงินสด 19 ล้านบาท หลังจากนั้น ได้ขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย
4.ร้านเบบี้เฟซ พื้นที่ สน.คลองตัน หลังตรวจค้นที่พัก พบสุราต่างประเทศ ไวน์ต่างประเทศ บุหรี่ต่างประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ และอาวุธปืน หลังจากรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เพิ่มจำนวน 4 ราย โดยคดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง
จับกุมคนต่างด้าวลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 คนต่างด้าว 56 ราย ใช้ไทยเป็นฐานลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เห่อซิง โดยมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท
จับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 ผู้ต้องหา 2 ราย เกี่ยวข้องกับแก๊ง อุ้มตัดนิ้วเพื่อนร่วมแก๊งเรียกค่าไถ่ 37 ล้านบาท
จับกุมคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชน เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 65 จับกุมนายทุนรายใหญ่ สวมบัตรประชาชนไทย ตามหมายจับศาล จว.ปัตตานี จ.125/65 ยึดของกลางหลายรายการ เช่น ชุดเครื่องแบบฯ ติดป้ายชื่อ รถยนต์ 2 คัน (ติดธงจีนคล้ายรถสถานทูต) หนังสือเดินทาง 3 เล่ม
จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 65 รวบหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หนีซุกไทยเสวยสุข ตามหมายจับ ข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกง การลักทรัพย์ เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสาธารณะหนังสือเดินทางปลอม ตรวจยึด รถยนต์ยี่ห้อ Ferrari 1 คัน มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท
โฆษก ตร. กล่าวว่า นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” จำนวน 8 เรื่อง โดยเป็นข้าราชการตำรวจ จำนวน 12 นาย และประชาชน 3 นาย เช่น การช่วยเหลือ ประชาชน นำส่งเด็กพลัดหลง การปฐมพยาบาล ช่วยเหลือรถจักรยานยนต์ตกคลอง การจับกุมคนร้ายใช้อาวุธปืน ช่วยเหลือเด็กหญิง เจรจาคนพยายามจะกระโดดสะพาน ใช้ไหวพริบในการจับกุมยาเสพติดกว่า 5 ล้านเม็ด อีกทั้ง ยังมีผู้ได้รับเกียรติบัตรตามโครงการนี้ ที่เสนอขึ้นมาจากหน่วยงานต้นสังกัด 37 หน่วยงาน โดยเดือน ต.ค. 65 มี 46 ราย จำแนกเป็นตำรวจ 37 ราย กับพลเมืองดี 9 ราย และเดือน พ.ย. 65 มี 43 ราย จำแนกเป็นตำรวจ 37 ราย กับพลเมืองดี 6 ราย รวมจำนวน 89 ราย และอีก 1 ราย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 พิจารณามอบรางวัล กรณีการจับกุมผู้ต้องหาที่มีอาวุธปืน และได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ กรณีเหตุเมื่อวันที่ 28 พ.ย.65 เวลาประมาณ 09.00 น. บริเวณด่านตรวจฉิมหลา จ.นครศรีธรรมราช
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับ สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยให้มีการระดมกวาดล้าง จับกุมผู้กระทำความผิด บังคับใช้ทุกมาตรการทางกฎหมาย อย่างเด็ดขาด จริงจัง ต่อเนื่อง และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ตามหลักยุทธวิธี ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พอใจผลการปฏิบัติในภาพรวม สามารถขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน การแก้ปัญหายาเสพติด ที่มีการนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด จำนวน 140,839 ราย จับกุมคดีอาวุธปืนจำนวนมาก การพนัน สถานบริการ และแก้ปัญหาคดีออนไลน์ รวมทั้งการขยายผลดำเนินคดีกับแก๊งอาชญากรรมต่างชาติ คดีนายทุนจีนผิดกฎหมาย
“ผลงานตัวเลขการปฏิบัติเหล่านี้ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความสงบเรียบร้อยในสังคม หากประชาชนพบเบาะแส สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสได้ทางสายด่วน 1599 และ ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ทั่วประเทศ” โฆษก ตร.กล่าวทิ้งท้าย