xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด ยื่นฟ้อง “สันธนะ” พาดพิงโรงแรมมั่วสุมเสพยา เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ พร้อมทนายความเดินทางมายื่นฟ้อง
“ชูวิทย์” อดีตเจ้าพ่ออ่าง พร้อม “ทนายความ” ยื่นฟ้อง “สันธนะ” อดีตตำรวจสันติบาล 3 ข้อหา แจ้งความเท็จ-สร้างหลักฐานเท็จและหมิ่นประมาท ปมแอบถ่ายคลิปพาดพิงโรงแรมมั่วสุมเสพยา ทำให้เสียชื่อเสียง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน ลั่นจะบริจาคให้โรงพยาบาลทั่ว กทม.

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด เดินทางมาพร้อมกับ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เพื่อยื่นฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ในข้อหาแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญาที่มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น, ข้อหาสร้างพยานหลักฐานเท็จ และข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เรียกค่าเสียหายมูลค่า 100 ล้านบาท

จากกรณีที่ นายสันธนะ กล่าวพาดพิงทำนองว่า ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิงค์ ซอยสุขุมวิท 24 ของบุตรชายนายชูวิทย์ เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของนักเที่ยว และสร้างพยานหลักฐานโดยการแอบถ่ายและนำคลิปวิดีโอไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าว ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้โรงแรมและนายชูวิทย์เสื่อมเสียชื่อเสียง วันนี้ถึงมายื่นฟ้องนายสันธนะ โดยมี บริษัท ต้นตระกูล จำกัด เป็นโจทก์ที่ 1 และมี นายชูวิทย์ เป็นโจทก์ที่ 2


นายอนันตชัย ทนายความ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายชูวิทย์ เพราะเป็นคน อ.หาดใหญ่ เหมือนกัน และวันนี้นายชูวิทย์ได้กลับตัวกลับใจมาทำความดีให้สังคมเหมือนองคุลิมาล ตนจึงได้นำเหรียญองคุลิมาล มามอบให้นายชูวิทย์ 1 องค์ด้วย ส่วนอีก 1 องค์จะมอบให้ นายสันธนะ ถ้ากลับตัวกลับใจ ซึ่งตนติดตามคดีนี้มาสักระยะหนึ่ง เมื่อช่วง ก.ค. 2565 นายชูวิทย์ ได้ตีแผ่เกี่ยวกับคนจีนสีเทา ยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมาย การพนัน จนกระทั่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ต่อมามีชาวจีนคนหนึ่งเสพยาเสพติดเสียชีวิต จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จึงได้เข้ามากำกับดูแล ทำให้นายชูวิทย์จึงออกมาตีแผ่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คู่กรณีจึงไม่ใช่นายสันธนะ แต่เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 นายสันธนะ ได้ไปประกันตัวนายเดวิด ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ต่อมาวันที่ 5 พ.ย. 2565 ได้ไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ มีการนำภาพวิดีโอ และกล่าวอ้างว่า น่าจะมีการมั่วสุมยาเสพติด และมีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาจนเป็นผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เข้ามาตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นายสันธนะ ก็ยังจะกล่าวใส่ร้ายโรงแรมของนายชูวิทย์ ตามไปก่อกวน การให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งมันไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การทำคลิปวิดีโอว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในโรงแรมของนายชูวิทย์ ซึ่งหากสถานบันเทิง หรือสถานบริการใด มีการปล่อยให้เสพยาเสพติดมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 5 ปี และเลขาธิการ ป.ป.ส. สามารถปิดสถานบันเทิงและเพิกถอนใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ดังนั้น วันนี้นายชูวิทย์ได้รับมอบอำนาจจาก บ.ต้นตระกูล จำกัด เป็นโจทก์ที่ 1 และนายชูวิทย์ เป็นโจทก์ที่ 2 มาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายสันธนะ เป็นจำเลยข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นได้โทษทางอาญา ทั้งที่ไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ทั้งนี้ เป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท


ด้าน นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ในชีวิตตนนั้นไม่เคยเป็นโจทก์ฟ้องคดีใคร ตนเป็นจำเลยทุกคดี เพราะตนคิดว่าตนถูกกลั่นแกล้งถูกกระทำมาตลอด แต่ก็เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านไป สิ่งที่ตนพูดสาระสำคัญอยู่ที่มาเฟียจีนสีเทา ที่กำลังกัดกินประเทศนี้ จู่ๆ นายสันธนะ อดีตตำรวจ ที่ถูกไล่ออกจากราชการ ก็มาที่โรงแรมของตนมาป้ายสีและไปแจ้งความ จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันนี้ ก็มาพูดอีกในเรื่องของสถานอาบอบนวด ซึ่งตนต้องบอกว่า ตนได้ขายทั้ง 6 แห่ง ไปตั้งแต่ปี 2546-2547 เพราะตอนนั้นตนดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น ส.ส.พรรคชาติไทย อีกทั้ง นายสันธนะ ยังได้กล่าวถึงการจ่ายภาษี 4,000 ล้านบาท แต่นายสันธนะไม่รู้เรื่อง เพราะสถานอาบอบนวดของตน ไม่มีที่ดินที่ตนเป็นเจ้าของ เพราะตนเช่าเอา ดังนั้น มูลค่าจริงๆ จึงไม่มี เพราะตนใช้วิธีการโอนหุ้น ซึ่งตนก็ไม่อยากตอบโต้ ตนก็สู้มาตลอด สู้ทางสื่อ สู้ทั้งข้างถนน สู้ไปทุกรูปแบบ แต่นายสันธนะไม่สู้ เวลาพูดก็ทำท่ามีกระเป๋ามีเอกสารมีข้อมูลโยงไปว่าตนมีรูปถ่าย ว่า รู้จักตน แต่นายสันธนะมีรูปถ่ายตอนกินข้าวกับตนไหม ตอนนั้นตนเป็น ส.ส กรรมาธิการการตำรวจ นายสันธนะ ก็มาหามาฟ้องเรื่องบ่อน อย่างนายสันธนะ ให้มาเจอที่ศาลดีกว่า มาสู้โดยวิธีการของกฎหมาย ซึ่งหากชนะคดีจะให้ทนายความนำเงินทุกบาททุกสตางค์ไปทำบุญบริจาคให้กับโรงพยาบาลใน กทม.เพื่อช่วยเหลือผู้พิการหรือเจ็บป่วย

ทั้งนี้ ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว ศาลได้รับไว้คำฟ้องเป็นคคีหมายเลขดำ อ.2892/2566 นัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 6 ก.พ. 2566 เวลา 13.30 น.


ต่อมาเวลา 10.15 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก หลังทราบว่า นายชูวิทย์ ได้มาฟ้องร้องตนเอง โดยจะมาขอสำเนาคำฟ้องจากศาล เพื่อเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดี ซึ่งตนยืนยันว่า คลิปในโรงแรมเดวิส คอนเนอร์วิงค์ ของลูกชายนายชูวิทย์ เป็นคลิปเหตุการณ์จริง ไม่ได้ตัดต่อ หรือสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด อีกทั้งยังเก็บคลิปบางส่วนไว้กับตนเอง ไม่ได้มอบให้พนักงานสอบสวนทั้งหมด เพราะไม่เชื่อมั่นในพนักงานสอบสวน ซึ่งตนก็พร้อมสู้คดี เพราะมั่นใจว่าพยานหลักฐาน


นายสันธนะ ยังกล่าวถึงทนายความของนายชูวิทย์ ด้วยว่า ที่ก่อนหน้านี้ นายอนันต์ชัย เคยไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งและพูดจาด้วยถ้อยคำลักษณะข่มขู่ตนเอง อยากให้ทบทวนตัวเองด้วย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ที่นายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะเดินทางที่ไปรัฐสภา ยืนยันว่า ตนจะไปรอพบนายชูวิทย์ที่รัฐสภาด้วยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น