xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง กก.สอบปมอดีต ส.ส.“ครรชิต” โดนโทษจำคุกตลอดชีวิตคดีฆ่าคนตาย แต่ติดจริง 7 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “สมศักดิ์” แจง “ครรชิต” อดีต ส.ส.สมุทรสาคร พ้นคุกหลังอยู่ในเรือนจำเพียง 7 ปี แม้ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เบื้องต้นยังไม่พบผิดปกติ สั่งตั้งกรรมการสอบเชิงลึก หากคำนวณผิด 3-6 เดือน โดนสองเด้ง “กลับเข้าคุก-ใส่กำไลอีเอ็ม” ตามกฎหมายใหม่

วันนี้ (19 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม, น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม, นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม, นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ, นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ว่าที่อธิบดีกรมคุมประพฤติ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ “ทุกครอบครัวและสังคมต้องปลอดภัย ด้วยกฎหมาย JSOC” เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. .... หรือ JSOC ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย ในการดูแลกลุ่มบุคคลอันตราย สร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม

โดยภายในกิจกรรมได้มีการนำคดีดังในอดีตที่เข้าข่ายต้องถูกเฝ้าระวังหลังพ้นโทษมาแสดง เช่น คดี นายสมคิด พุ่มพวง, ไอซ์ หีบเหล็ก รวมถึงผู้ที่ติดยาเสพติดและมีพฤติกรรมทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิตด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ กรมคุมประพฤติ ได้มานำเสนอ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือ กฎหมาย JSOC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม สำหรับการดำเนินการเฝ้าระวังบุคคลอันตราย หลังพ้นโทษ ในคดี 3 กลุ่ม คือ ความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น การข่มขืนกระทำชำเราและอนาจาร ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย เช่น ฆ่าคนตาย ทำร้ายร่างกายจนอันตรายสาหัส และความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ เช่น การเรียกค่าไถ่ ซึ่งกฎหมายนี้ได้เกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องนำกลุ่มบุคคลอันตรายที่ยังอยู่ในเรือนจำเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูทางการแพทย์และหลังพ้นโทษก็จะมีการเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็ม อีกไม่เกิน 10 ปี โดยหลายคดีที่นำมาจัดนิทรรศการ ก็จะต้องถูกเฝ้าระวังตามกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำด้วย ซึ่งในอดีตเมื่อพ้นโทษ จะไม่มีการเฝ้าระวัง

“ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ตอนนี้ คือ ผู้ติดยาเสพติด เกิดอาการหลอนแล้วก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนอื่นนั้น ผมก็ขอย้ำว่า คนกลุ่มนี้ ก็จะถูกเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็มด้วย จึงอยากให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า กระทรวงยุติธรรม ได้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังบุคคลอันตราย เพื่อช่วยทำให้สังคมเกิดความปลอดภัย ใช้ชีวิตกันได้ตามปกติ ไม่ต้องหวาดระแวง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง” รมว.ยุติธรรม กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มบุคคลอันตราย ขณะนี้ เราได้มีการจัด Watchlist เป็น 3 กลุ่ม คือ Watchlist 1 กลุ่มผู้พ้นโทษ ออกจากเรือนจำ จำนวน 132 คน ซึ่งขณะนี้ กฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ ทำให้กรมคุมประพฤติ ทำได้แค่เฝ้าติดตามเท่านั้น ส่วน Watchlist 2 กลุ่มที่กำลังจะออกจากเรือนจำ จำนวน 27 คน เมื่อมีกฎหมาย JSOC ใช้แล้ว ก็จะถูกจัดเป็นกลุ่มนี้ และ Watchlist 3 กลุ่มที่กำลังจะเข้าเรือนจำ จำนวน 52 คน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการขอให้ใช้กฎหมายใหม่ ในสำนวนด้วย ดังนั้น กรมคุมประพฤติจึงต้องมีการทำเรื่องขอต่อศาลเพื่อขอให้เฝ้าระวังตามกฎหมายฉบับนี้

ด้าน พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ว่า เกิดจากคดีที่ นายสมคิด พุ่มพวง ออกจากเรือนจำแล้วไปทำความผิดซ้ำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม จึงให้คิดวิธีที่จะป้องกันการทำผิดซ้ำ แรกๆ ใช้เป็นระบบเชิงสร้างสรรค์ โดยการประสานงานกับตำรวจพื้นที่ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ให้ติดตามผู้พ้นโทษในกลุ่ม 3 คดี เฝ้าระวังติดตาม แต่ตามดูได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำได้ไม่เต็มที่ จึงต้องออกกฎหมาย เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำในคดีฆ่า คดีทางเพศที่โหดร้ายทารุณ และคดีเรียกค่าไถ่ ซึ่งตนก็ได้มีการเดินทางไปดูตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ ออสเตรเลีย เพื่อนำบางจุดมาปรับใช้กับของประเทศไทย

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงกรณี การปล่อยตัว นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในคดียิง นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต นายก อบจ.สมุทรสาคร เสียชีวิตหน้าห้องน้ำปั๊มน้ำมัน แต่ติดคุกจริงเพียง 7 ปีเท่านั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรณี นายครรชิต ได้ถูกปล่อยตัวไปแล้ว ก่อนกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำ มีผลบังคับใช้ แต่ก็ยังถูกจัดอยู่ใน Watchlist 1 เพราะมีพฤติกรรมรุนแรง ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่นำเรื่องนี้มาตั้งข้อสังเกต โดยตนก็ได้มีการสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ตั้งกรรมการสอบในเชิงลึก ภายใน 1 สัปดาห์ แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น การปล่อยตัวนายครรชิต ยังไม่พบการผิดปกติ เพราะการเลื่อนชั้นผู้ต้องขัง ก็เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ

“แต่หากมีการตรวจสอบเชิงลึกของกรรมการตรวจสอบ แล้วพบว่า มีการคิดคำนวนผิดพลาดไป 3-6 เดือน นายครรชิต ก็ต้องถูกเรียกกลับเข้าเรือนจำ รวมถึงยังต้องถูกใส่กำไลอีเอ็ม หลังพ้นโทษอีก 10 ปี ตามกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ด้วย แต่หากคำนวณไม่ผิด นายครรชิต ก็ยังถูกจัดอยู่ใน กลุ่ม Watchlist 1 ที่ต้องถูกเฝ้าระวังอยู่“ รมว.ยุติธรรม กล่าว

ขณะที่ นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีของ นายครรชิต ทับสุวรรณ ได้ถูกปล่อยตัวไปแล้ว เพราะว่าได้ดำเนินการตามกฎหมาย กรมราชทัณฑ์จึงปล่อยตัวไป แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวัง ซึ่งกรณีที่มีความสับสนเรื่องการพ้นโทษออกไปของคนในสังคม ตอนนี้ทางกรมราชทัณฑ์กำลังมีการตรวจสอบตามที่รัฐมนตรีสั่งการ และหากทราบผลการตรวจสอบจะรีบรายงานให้ทราบต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น