ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวพ่อหื่นเมายาบ้าข่มขืนลูกสาวในไส้วัย 13 ปี 10 ครั้ง มาที่โรงพักทับสะแก รับสารภาพแต่โดยดี
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพจสายไหมต้องรอด พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พา ด.ญ.เอ อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ไพรัช พาเขียว พนักงานสอบสวน สภ.ทับสะแก ให้ดำเนินต่อนายเอก (นามสมมติ) อายุ 36 ปี บิดาแท้ๆ ของผู้เสียหาย หลังเสพยาบ้าจนเมาได้ข่มขืนกระทำชำเรานานหลายเดือนกว่า 10 ครั้ง
โดยเมื่อประมาณเดือน ธ.ค.64 นายเอก พาครอบครัว บุตรสาวและบุตรชาย รวม 5 คน มาพักอาศัยใน อ.ทับสะแก และเมื่อ ม.ค.65 น.ส.ออน มารดาถูกจำคุกในเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นเดือน มี.ค.65 เวลาประมาณ 02.00-03.00 น. นายเอก ซึ่งอยู่กับบุตรสาวและบุตรชายที่บ้านหลังเกิดเหตุ ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ 1 ครั้ง และในเดือนเดียวกันได้ข่มขืนในเวลากลางคืนอีก 2 ครั้ง
กระทั่งเดือน เม.ย. น.ส.ออน ผู้ต้องหาพ้นโทษออกจากเรือนจำได้กลับไปพักอาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุ ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ช่วงเวลาประมาณ 15.00-17.00 น. ขณะที่ น.ส.ออน พาลูกสาวอีกคนหนึ่งออกไปทำงานรับจ้างและน้องชายคนเล็กออกไปเล่นนอกบ้าน นายเอก จึงฉวยโอกาสขณะปลอดผู้คนลงมือกระทำการข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ภายในบ้านพัก 7 ครั้ง โดยบุตรสารไม่ได้บอกให้ใครทราบ
จนกระทั่งเดือน ก.ย. นายเอกพา ด.ญ.เอ ไปซื้อของในตลาดสดทับสะแก นายเอก มีอารมณ์ใคร่จึงได้พยายามชักชวนให้ ด.ญ.เอ เข้าไปในห้องน้ำของตลาดสดเพื่อกระทำชำเรา แต่ ด.ญ.เอ ไม่ยอมเข้าไปในห้องน้ำ และเดินทางกลับไปยังบ้านพัก จากนั้นจึงนำเรื่องที่ถูกนายเอก ข่มขืนเล่าให้ น.ส.ออน มารดาทราบ น.ส.ออน จึงโทรศัพท์บอกญาติที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมา ญาตินายเอก ประสานขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิสายไหมต้องรอด เพื่อนำ ด.ญ.เอ เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ทับสะแก
ล่าสุด เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพนำผู้เสียหายไปสอบปากคำที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการขอหมายจับผู้ต้องหา ต่อมา ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกหมายจับที่ จ.136/65 ลงวันที่ 12 ต.ค. จับกุมนายนนทวัฒน์ เกตุนิวัตร์ อายุ 36 ปี ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดานซึ่งอยู่ในความปกครอง
ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรื่องของเด็กต้องให้ความคุ้มครองไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้ ต้องคุ้มครองทุกมิติเกี่ยวกับเด็ก การคุ้มครองเสรีภาพ และการช่วยเหลือ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดให้ตัวแทนนำกระเช้าเยี่ยมให้กำลังใจเด็ก ส่วนสภาพจิตใจ น้องเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว โดยมีการประเมินสภาพจิตใจจากจิตแพทย์ ตรวจร่างกายเสร็จสิ้นและดำเนินการสอบปากคำ
เบื้องต้น ทาง พม. นำเด็กเข้าพักที่บ้านพักเด็กประจวบคีรีขันธ์ แต่ในกรณีดังกล่าวทางญาติมีความพร้อมที่จะรับเด็กไปอุปการะเอง และทาง พม.จะส่งเจ้าหน้าที่เยี่ยมบ้านผู้อุปการะและให้กำลังใจเป็นระยะระหว่างที่ดำเนินคดี
ต่อมา ในช่วงเย็น พ.ต.ท.ภราดร แช่มมั่นคง รอง ผกก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทับสะแก ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ที่แหล่งกบดานใน ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มาที่ สภ.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 21.30 น. โดยผู้ต้องหาอยู่ในสภาพอิดโรย นำควบคุมตัวในห้องขังเพื่อรอการสอบปากคำ
พ.ต.ท.ภราดร แช่มมั่นคง รอง ผกก.สส.สภ.ทับสะแก หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า หลังจากสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดาน ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จึงได้นำกำลังชุดสืบสวน สภ.ทับสะแก และประสานตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 เข้าปิดล้อมพื้นที่จับกุมผู้ต้องหาได้โดยละม่อม โดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืนใดๆ จากนั้นควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.ทับสะแก เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้