ตำรวจสืบนครบาล 7 จับหนุ่มใช้ปืนไทยประดิษฐ์ .38 รัวยิงจนหมดโม่ ใส่เด็กวัย 13 ปี บาดเจ็บสาหัส 2 ราย พบประวัติเคยต้องโทษคดีชิงทรัพย์
วันนี้ (14 ต.ค.) พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ ผกก.สส.บก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สวัสดิ์ ภักดี รอง ผกก.สส.บก.น.7 นำกำลังจับกุมตัว นายอาศิระ เลี่ยมขันทอง หรือ บาส อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 388/2565 ลงวันที่ 29 ก.ค. 65 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 41 ภายในซอยวัดประดิษฐาราม (วัดมอญ) ถนนอิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา นายศิระ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ไปก่อเหตุรัวยิงกลุ่มคู่อริซึ่งเป็นเยาวชน จำนวน 6 นัด เหตุการณ์บริเวณท่าน้ำวัดชลอ พื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย คือ ด.ช.นก (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่แก้มซ้ายทะลุด้านขวา และ ด.ช.หรั่ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่กลางหลังทะลุปอด ทั้ง 2 รายอาการสาหัส โดยก่อนที่ นายศิระ จะหลบหนียังโพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียข่มขู่กลุ่มผู้เสียหายว่า “ถ้าเด็กทั้งสองคนไม่ตายจะไม่ยอมติดคุก”
ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายศิระ ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ในบ้านเช่าในพื้นที่ บก.น.7 จึงนำกำลังพร้อมหมายศาลไปติดตามจับกุม เมื่อ นายศิระ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็รีบวิ่งหนีปีนหลังคาบ้านชาวบ้านในละเเวกดังกล่าวไปทั่วบริเวณอย่างไม่คิดชีวิต แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังล้อมเอาไว้ทุกด้าน ทำให้ นายศิระ ยอมจำนวนมอบตัวแต่โดยดี
จากการสอบสวน นายศิระ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคู่กรณีจริง เนื่องจากวันเกิดเหตุมีพรรคพวก มาฟ้องตนว่ากลุ่มคู่กรณี ได้ชิงทรัพย์เอารถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นเเม็คไป จึงอาสาไปติดตามเพื่อที่จะไปทวงเอารถคืน พอไปถึงจุดเกิดเหตุบริเวณท่าน้ำวัดชลอ เห็นกลุ่มคู่กรณีนับสิบคนนั่งเล่นกันอยู่ มีบางส่วนถืออาวุธมีดจะกรูเข้ามาทำร้ายตน ตนจึงต้องชักอาวุธปืนขนาด .38 ออกมายิงใส่เพื่อป้องกันตัวไปจำนวน 6 นัด ไม่รู้ว่ากระสุนถูกใครบ้าง ก่อนหลบหนีออกจากพื้นที่มากระทั่งถูกตามจับกุม
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้เป็นของเพื่อนรุ่นพี่ที่ซื้อมาจากในโซเชียลมีเดียราคากระบอกละ 10,000 บาท หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปคืนเพื่อนรุ่นพี่แล้ว และทราบว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน เจ้าของปืนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย จับกุมตัวข้อหาครอบครองอาวุธปืนเถื่อน ได้พร้อมของกลางไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยตนอยากจะฝากขอโทษกลุ่มผู้ปกครองของผู้บาดเจ็บ ซึ่งสาเหตุที่ตนต้องยิงในวันนั้นเพราะว่าจำเป็นต้องป้องกันตัว สำหรับประเด็นการโพสต์ข่มขู่ในโลกโซเชียลนั้นไม่ใช่ฝีมือตนแต่อย่างใด
เบื้องต้นชุดจับกุม ได้ทำการตรวจสอบประวัติของ นายศิระ พบว่า เคยต้องโทษจำคุกข้อหาชิงทรัพย์ ท้องที่ สน.ชนะสงคราม มาแล้วครั้งหนึ่ง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
