เผย อดีตตำรวจกราดยิง “เก็บตัว-ชอบเล่นปืน-มีปัญหาเรื่องงาน” บช.น.ถกปมครอบครองอาวุธ

MGR Online - รอง ผบช.น.เผย อดีตตำรวจคลั่งยากราดยิง ศูนย์เด็กเล็กฯ จ.หนองบัวลำภู เคยรับราชการในนครบาล ทำงานไม่เคยได้ 2 ขั้น ไม่มีผลงานโดดเด่น ไม่สุงสิงกับใคร ร่วมงานกับเพื่อนยาก ชอบเล่นปืน ก่อนย้ายกลับภูมิลำเนา สั่งทุก สน.ทำบันทึกบุคคลเฝ้าระวัง ไล่ออกแล้ว 7 นาย มีประวัติ เล็งหารือระงับครอบครองปืน กำชับผู้บังคับบัญชาพิจารณาโครงการจัดหาอาวุธ ล้อมคอกตรวจฉี่

วันนี้ (7 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.ในฐานะรองโฆษก บช.น.กล่าวถึงอดีตตำรวจพัวพันคดียาเสพติด ก่อเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสียชีวิต 38 ราย ว่า ประวัติรับราชการ ส.ต.อ.ผู้ก่อเหตุตอนสอบเข้า บช.น.ได้ถูกส่งไปฝึกที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 (ศฝร.ภ.3) ปี 2556 บรรจุฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ย้ายไปฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ยานนาวา การปฏิบัติหน้าที่ไม่เคยได้พิจารณาเลื่อน 2 ขั้น วิเคราะห์ได้ว่าไม่มีผลงานโดดเด่น ไม่ถนัดงานคอมพิวเตอร์ ไม่เคยตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย เป็นคนเก็บตัว ไม่สุงสิงกับเพื่อนร่วมงาน ไม่สามารถทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้เป็นปกติ มีปัญหาเรื่องปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา จึงคาดว่า มีปัญหาเรื่องการทำงาน ภายหลังจึงขอย้ายกลับภูมิลำเนาประจำอยู่ สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู อีกทั้งทราบด้วยว่าส่วนตัวชอบเล่นปืน

มาตรการป้องกัน บช.น.ลงพื้นที่โครงการชุมชนเข้มแข็งมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผู้เสพไปบำบัดแล้ว 1,300 กว่าราย เป็นเวลา 15 วัน ให้เป็นบุคคลเฝ้าระวังเพราะมีแนวโน้มไม่หายจริง อาจจะกลับเข้าไปเสพต่อแล้วมีอาการคลุ้มคลั่ง ผบช.น.สั่งการทุก สน.ทำบันทึกว่าในพื้นที่มีบุคคลเฝ้าระวังกี่ราย มีชุมชนเฝ้าระวังกี่แห่ง จุดมุ่งหมายคือ ให้ผู้เสพบำบัดแล้วกลับคืนสู่สังคม ส่วนมาตรการปราบปรามอาวุธปืน มีการระดมกว้างล้างปิดล้อมตรวจค้นชุมชนตลอด สถิติปี 2563 จับกุมคดีปืน 687 ราย ปี 2564 จับกุม 930 ราย ตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนี้ หารือว่าบุคคลที่พ้นสภาพจากการรับราชการตำรวจ จำเป็นต้องยื่นรายชื่อต่อนายทะเบียนเพื่อระงับการครอบครองปืนหรือไม่ ตั้งแต่ปี 2563 บช.น.ไล่ออกตำรวจที่มีประวัติ หรือต้องโทษคดียาเสพติดแล้ว 7 ราย ตนจะกำชับผู้บังคับบัญชาทุก บก.พิจารณาโครงการสวัสดิการจัดหาอาวุธปืน และออกใบรับรองความประพฤติว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาเคยมีประวัติ และเป็นบุคคลที่ไม่ควรมีอาวุธปืนหรือไม่

“ยืนยันว่า ตำรวจ บช.น.เป็นบุคคลที่มีความพร้อมในด้านการปฏิบัติ ทั้งการสกัด ป้องกัน ตอบโต้ กับคนกลุ่มนี้ ขอให้เชื่อมั่นได้ เราจะฝึกทบทวนวิธีการใหม่ๆ ถามว่า ตำรวจของเราจะกลายเป็นคนแบบนั้นอีกหรือไม่ ทุก บก.ต้องไปตรวจสอบคนของเราเรื่องยาเสพติด โดยสุ่มตรวจปัสสาวะแล้วรายงานขึ้นมา ผู้บังคับบัญชาระดับสารวัตรรู้อยู่แล้วใครมีแนวโน้ม ทั้งนี้ บช.น.ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” น.4 กล่าว