ศาลอาญาประทับฟ้อง “พรรคก้าวไกล-พิธา-เพชร กรุณพล” โพสต์เฟซบุ๊กล้อเลียน หมิ่นประมาท “สิระ เจนจาคะ” ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม.เขตหลักสี่ ชี้ อาจทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง นัดตรวจหลักฐาน 21 พ.ย.นี้
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญานัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.155/2565 นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ นายทิวา การกระสัง ทนายความส่วนตัว ยื่นฟ้อง พรรคก้าวไกล โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตจตุจักร-หลักสี่ ของพรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท
จากกรณี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2564 - 23 ม.ค. 2565 พรรคก้าวไกลจำเลยที่ 1 ซึ่งมีเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ชื่อ “พรรคก้าวไกล-Move Forward Party” ที่เผยแพร่เป็นสาธารณะ ได้นำรูปของนายสิระ ขณะดำรงตำแหน่ง ส.ส.แต่งกายชุดข้าราชการรรัฐสภา และเบลอดวงตาให้เป็นสีขาว มีวงกลมล้อมรอบด้านซ้ายของภาพ ไปตัดต่อในลักษณะล้อเลียน คู่กับภาพของนายกรุณพล พร้อมกับเขียนข้อความว่า “ตามหาอาสาสมัครช่วยเพชร กรุณพล หาเสียง-จับโกงเลือกตั้ง ไม่จำกัดเพศ วัย ขอแค่ใจรักประชาธิปไตยก็พอ” ข้อความดังกล่าว จำเลยทั้งสามมีเจตนาต้องการให้บุคคลที่อ่านข้อความ และเห็นภาพดังกล่าวเข้าใจว่าการเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 9 กทม. ที่จำเลยที่ 3 ลงสมัครรับเลือกตั้งจะมีการโกงการเลือกตั้ง โดยโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในภาพ จะเป็นผู้โกงการเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง จึงเป็นการหมิ่นประมาทด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมาย มาตรา 326, 328, 83, 90, 91
โดยวันนี้ นายสิระ โจทก์ มอบหมายให้เสมียนทนายความมาฟังคำสั่ง
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นแล้ว การที่มีภาพโจทก์ แล้วตัดเอาตาดำออกใส่ตาสีขาวแทน และมีข้อความว่าจับโกงเลือกตั้ง จึงอาจทำให้ผู้อ่านข้อความและเห็นภาพสัญลักษณ์ดังกล่าวเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่ได้ หรือคนโกง แม้จะเบิกความว่า ปกติผู้ดูแลเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊กเป็นผู้รับผิดชอบมีหน้าที่โพสต์และลบข้อความ แต่โจทก์เบิกความว่าหลังพบข้อความที่โพสต์แล้วได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 และ 3 ทราบแต่ก็ไม่มีการลบออก ซึ่งการประชาสัมพันธ์กิจกรรมเลือกตั้งดังกล่าว เป็นกิจกรรมของพรรคที่อยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง การกระทำดังกล่าวจึงอยู่ความรับผิดชอบของจำเลยที่ 3 ข้อความและภาพที่นำมาโพสต์อาจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชังได้ การกระทำของจำเลยทั้งสามมีมูลจึงมีคำสั่งประทับฟ้อง และหมายเรียกจำเลยทั้งสามยื่นคำให้การภายใน 15 วัน และนัดตรวจหลักฐาน 21 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.