MGR Online - หัวคะแนน ส.ก.ร้องกองปราบ เร่งสางคดีถูกชาวสายไหมบุกรุมทำร้าย หลังผู้สมัครจ่ายเงินซื้อเสียงให้ไม่ครบ
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายเทพฤทธิ์ ชัยภูมิพิทักษ์ ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี และบุตรสาว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธงชัย โตเจริญ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีถูกชาวบ้านในพื้นที่สายไหม บุกมาล้อมห้องพักและเข้ามาพยายามรุมทำร้าย รวมถึงนำกาวตราช้างมาหยอดรูกุญแจ จนไม่สามารถเข้าห้องพักได้ โดยได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามไว้ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา
น.ส.เอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มี ส.ก.ท่านหนึ่งในพื้นที่สายไหม ได้มาขอร้องให้เป็นหัวคะแนนให้ ตนเห็นว่า เขาเคยมีบุญคุณ จึงรับปากช่วยเหลือ จากนั้นเขาได้ให้ไปซื้อเสียงชาวบ้าน รายละ 500 บาท โดยให้เก็บสำเนาบัตรประชาชนมาได้กว่า 115 ราย จากนั้นเขากลับจ่ายเงินให้ชาวบ้านได้เพียง 65 ราย ส่วนที่เหลืออีก 50 รายนั้น ผู้สมัคร ส.ก. บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายให้ ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ได้รับเงินโกรธแค้นบุกล้อมห้องพัก พยายามจะเข้ามารุมทำร้าย จนต้องหนีตายออกมาทางหลังห้อง นอกจากนี้ ยังถูกชาวบ้านนำกาวตราช้างมาหยอดรูกุญแจ จนไม่สามารถไขเข้าห้องได้
“ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะส่งเสริมการทุจริตการเลือกตั้ง ทำไปเพื่อทดแทนบุญคุณ ซึ่งฉันก็ไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรเลย ชีวิตตอนนี้ลำบากมาก สองคนแม่ลูกไร้ที่อยู่ จึงอยากขอร้องให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกลุ่มคนที่บุกมาพยายามทำร้ายด้วย” น.ส.เอ กล่าว
ด้าน นายเทพฤทธิ์ เปิดเผยว่า หลังแจ้งความมานานเกือบ 1 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้าใด ลูกความของตนยังเข้าห้องพักไม่ได้ ต้องเร่ร่อนขอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น ชีวิตมีความยากลำบาก จึงตัดสินใจเดินทางมาเพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดี และสอบถามผลการสอบสวนเบื้องต้นจากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินการทางกฎหมายกับ ส.ก. คนดังกล่าวนั้น ได้เข้าร้องเรียนพฤติกรรมดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าอีกไม่นาน กกต. จะดำเนินการตามกฎหมาย
นายเทพฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หากจะพูดว่าเป็นการส่งเสริมการทุจริต ต้องขอเรียนว่า ผู้เสียหายและทางพรรคมีความสนิทสนมกัน เมื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องการหาเสียง ก็ทำตามโดยที่ไม่คิดว่ามีผลกระทบ ซึ่งคิดว่า หลังจากนี้ ผู้เสียหายคงไม่กล้าทำแล้ว โดยเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ไม่ควรเกิดขึ้น ผู้สมัครอาศัยความสนิทสนมส่วนตัว และบุญคุณที่ช่วยเหลือผู้เสียหายมาก่อนหน้านี้ โดยการขอให้ผู้เสียหายเป็นหัวคะแนน และรวบรวมรายชื่อชาวบ้านให้ ซึ่งเป็นการกระทำผิดที่ชัดเจน และยังสร้างควรมเดือดร้อนให้ผู้อื่น นอกจากนี้ ยังเป็นการทำเป็นขบวนการ แต่ปัดความรับผิดชอบให้ผู้เสียหายเพียงคนเดียว