นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดัง ร้องทนายความจิตอาสา ถูกอาจารย์สอนดนตรี บังคับอมนักเขา กินน้ำอสุจิ แลกเกรด สมัยเรียน ม.1 โรงเรียนย่านบางใหญ่ เผย มีเหยื่อร้องเรียน ผอ.แค่สั่งให้ลาออกย้ายไปที่อื่น
เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 7 มิถุนายน 65 ที่สำนักงานทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางสาวน้ำหวาน อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสาเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังสมัยตนเองเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนชื่อดังย่านบางใหญ่ แล้วถูกครูสอนดนตรีหลอกให้อมนกเขา กลืนน้ำอสุจิ เพื่อแลกกับวิชาคะแนนดนตรีที่ครูรายนี้สอนอยู่
น้องน้ำหวาน เปิดเผยด้วยความชอกช้ำใจในอดีตว่า ตอนนั้นตนเองอายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนชื่อดังย่านบางใหญ่ ได้ถูก ว่าที่ร้อยตรี ธนาคุณ ครูสอนวิชาดนตรี หลอกทำอนาจาร ให้เข้าไปหาที่ห้อง แล้วขอมีเพศสัมพันธ์ แต่ตนเองปฏิเสธ จึงถูกบังคับให้อมนกเขา กลืนน้ำอสุจิ เพื่อแลกกับคะแนนวิชาดนตรี หากไม่ทำตามจะไม่ได้คะแนนจากอาจารย์คนนี้ แม้แต่ตอนที่เขาไปบวชเป็นพระ ยังโทร.มาข่มขู่ขอให้ตนส่งรูปโป๊ไปให้เขาดู เพื่อจะไว้ช่วยตัวเอง ตนต้องส่งไปทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ เรื่องราวทั้งหมดตนไม่กล้าบอกพ่อ-แม่ ให้ได้รับรู้
ตนเองต้องเก็บความขมขื่นชอกช้ำใจเรื่อยมานานหลายปี จนกระทั่งเรียนจบและมาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต จนกระทั่งพบเพื่อนสาวคนสนิทและเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง จนวันที่ 12 พ.ค. 65 เพื่อนสาวพาตนเองไปร้องเรียนที่โรงเรียนมัธยมเก่า ที่ตนเองเคยถูกอาจารย์สอนดนตรีคนนี้ กระทำอนาจาร จนกระทั่งทางรองผู้อำนวยการได้มีหนังสือขอให้อาจารย์คนนี้ลาออกจากการเป็นอาจารย์ที่โรงเรียน แต่ตนคิดว่า หากเขากลับไปสอนหนังสือเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนแห่งไหนอีก จะมีนักเรียนตกเป็นเหยื่อเขาอย่างแน่นอน เพราะที่โรงเรียนมัธยมเก่าที่ตนเองเรียนอยู่ตอนนี้ ก็ทราบจากเพื่อนๆ หลายคนในโรงเรียนว่าถูกอาจารย์คนนี้ก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้วหลายคน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเปิดปากแฉความไม่ดีของอาจารย์คนนี้เลย ตนจึงคิดว่าเขาอาจย่ามใจ อาจไปก่อเหตุแบบนี้อีกที่โรงเรียนอื่น จึงอยากให้ทางทนายโป้งช่วยดำเนินการในเรื่องของคดีให้ด้วย
ทางด้าน นายเกียรติคุณ หรือ ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นจากที่สอบถามข้อมูลจากน้องบางส่วนตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เป็นทั้งวัตถุพยานเอกสารและพยานอิเล็กทรอนิกส์ ที่น้องยังพอมีอยู่ประกอบกับพยานบุคคล ตอนนี้อยู่ระหว่างติดต่อทราบว่า มีผู้เสียหาย 4-5 คน เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกันแล้ว และยินยอมจะมาเป็นพยานให้ นอกจากนี้ พยานต่างๆ ก็ยังถือว่าเป็นผู้เสียหายด้วย น้องถูกกระทำตั้งแต่อยู่มัธยมปีที่ 1 อายุประมาณ 13 ปี เข้าข้อกฎหมาย เป็นการกระทำอนาจารต่อบุคคลที่อายุไม่เกิน 15 ปี และกฎหมายใหม่ได้มีการแก้ไขเรื่องอายุเป็น 13 ปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังอยู่ในอายุความที่สามารถฟ้องร้องคดีได้ จะรวบรวมเอกสารหลักฐานและพยานบุคคล วัตถุพยานพยานทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะพาน้องไปแจ้งความดำเนินคดี กับพนักงานสอบสวนในเขตพื้นที่ที่มีอำนาจ สถานที่เกิด ทราบว่า น้องไปร้องกับผู้บังคับบัญชาผู้บริหารของสถาบันการศึกษานี้แล้ว เนื่องจากมันไม่มีความคืบหน้าและไม่มีความโปร่งใสที่จะดูแลความเสียหายของน้องในครั้งนี้
เดี๋ยวตนจะพาไปแจ้งความดำเนินคดีและไปติดตามกับผู้บริหาร ผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ เพื่อให้ท่านออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา คนที่เป็นครูบาอาจารย์ตนไม่อยากฝากอะไรเพราะเรื่องนี้มันเกิดอยู่บ่อยครั้ง อยู่ที่จิตใต้สำนึก ฝากถึงผู้บริหาร ตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับเขตระดับจังหวัด แล้วก็ผู้บริหารของโรงเรียนเอง ควรคอยดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ครูบาอาจารย์ให้รักลูกศิษย์ เหมือนลูกของตัวเองให้ดูแลเอาใจใส่ กวดขันเรื่องวินัย อย่าปล่อยให้ครูอยู่ลำพังกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นครูผู้ชายกับเด็กผู้ชาย ครูผู้หญิงกับเด็กผู้หญิง และครูผู้ชายกับเด็กผู้หญิง ไม่ควรจะปล่อยให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง 2 คน เพราะว่าสถานที่ที่เป็นโรงเรียนเปรียบเสมือนที่บ้าน เป็นสถานที่ปลอดภัย ฝากท่านผู้บริหารช่วยดูแลด้วย